Quantcast
Channel: Royal Update – Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach
Viewing all 1295 articles
Browse latest View live

พระองค์เจ้าโสมสวลี เสด็จทรงงานด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี

$
0
0

แม้ว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ จะยังไม่ทรงหายดีจากพระอาการประชวร แต่ก็ยังคงทรงงานด้านการช่วยผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 เวลา 14.20 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จออก ณ ห้องเอนกประสงค์ ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

ในการประชุมสัมมนา “ติดตามความคืบหน้าของการให้บริการเพร็พในประเทศไทย” ซึ่งสภากาชาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในโอกาสที่ทรงได้รับการถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ด้านการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จากโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือ UNAIDS เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2562

ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ประทานพระวโรกาสให้ แพทย์หญิงเดบอร่าห์ เบิร์กซ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษและผู้ประสานงานด้านเอดส์ระดับโลก ภายใต้แผนฉุกเฉินของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อบรรเทาปัญหาเอดส์ เฝ้าถวายของที่ระลึกในโอกาสที่ทรงรับการถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ อีกทั้งทรงฟังสรุปการประชุมสัมมนาติดตามความคืบหน้าของการให้บริการเพร็พในประเทศไทย และประทานโล่เกียรติคุณแก่ผู้แทนองค์กร และผู้ที่ทำประโยชน์ด้านเพร็พแก่ประเทศไทย

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พระราชทานแนวพระดำริเกี่ยวกับการพัฒนางานด้านเพร็พในประเทศไทย โดยทรงรับสั่งเน้นย้ำว่าการป้องกันโรคเอดส์เป็นเรื่องสำคัญ

จนมาถึงลำดับสุดท้าย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติด้านเอดส์ ซึ่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม และดำเนินงานป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารก จนมาสู่โครงการเพร็พพระองค์โสมฯ หรือ Princess PrEP โครงการต้นแบบในการให้บริการยาฟรี เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการในปี 2559

โดยผลการดำเนินงานจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2562 มีคนไทยได้รับเพร็พ 7,260 คน คิดเป็นร้อยละ 5 ของคนไทยที่ควรจะได้รับเพร็พ และร้อยละ 55 ได้รับจากโครงการเพร็พพระองค์โสมฯ ซึ่งขณะนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุเพร็พเข้าชุดสิทธิประโยชน์ของคนไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นำร่อง 2,000 คน ใน 21 จังหวัด โดยจะขยายผลเพื่อเพิ่มทางเลือกในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป


 

ข้อมูลและภาพ : news.ch7.com, mgronline.com

The post พระองค์เจ้าโสมสวลี เสด็จทรงงานด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.


ดัชเชสเคท เผยจะพยายามอย่างดีที่สุดให้ เจ้าชายวิลเลียม-แฮร์รี่ กลับมาดีดังเดิม

$
0
0

ดัชเชสเคท เผยทรงรู้สึกเสียใจกับ ดัชเชสเมแกน ที่พระองค์ต้องเจอกับเรื่องกดดันต่างๆ ในช่วงที่ผ่าน อีกทั้งจะยังทรงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ความสัมพันธ์ของเจ้าชายวิลเลียม – แฮร์รี่กลับมาเป็นดังเดิมภายใต้  “ความยากลำบาก”

ดูเหมือนกระแสข่าวความสัมพันธ์อันร้าวฉานระหว่างเจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าชายแฮร์รี่ ดูจะเป็นจริงตามที่สื่อต่างประเทศวิจารณ์ เพราะล่าสุดสำนักข่าว BBC ได้ออกมารายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี่ทรงให้สัมภาษณ์ใน Harry & Meghan: An African Journey สารคดีที่ออกอากาศทางช่องไอทีวี โดยรายการนี้เป็นการติดตามพระกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ขณะทรงประทับอยู่ที่แอฟริกาใต้

โดยบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งของเจ้าชายแฮร์รี่ พระองค์ทรงยอมรับว่า ไม่ได้สนิทสนมกับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา เหมือนดังเดิม ทั้งนี้เจ้าชายแฮร์รี่ยังได้ทรงประกาศว่าที่จะปกป้องครอบครัว ไม่ให้สื่อมาระรานเหมือนครั้งที่ทำกับพระมารดา รวมถึงพระองค์ยังได้ตรัสถึงการดูแลสุขภาพจิต และการรับมือจากการถูกกดดันในชีวิตว่าเป็นสิ่งที่ต้อง “จัดการอย่างต่อเนื่อง”

ด้านดัชเชสเมแกนเอง ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการนี้ด้วยว่า พระสหายสนิทเคยเตือนพระองค์แล้วว่าไม่ให้แต่งงานกับเจ้าชายแฮร์รี่ เพราะจะถูกระรานจากสื่อแทบลอยด์ ทั้งนี้พระองค์ยังทรงเผยด้วยว่า การปรับตัวให้เข้ากับราชสำนักเป็นเรื่องยาก ซึ่งพระองค์ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าจะเจอสื่อแทบลอยด์ขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ ของพระองค์

การที่ทั้งสองพระองค์ทรงออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ ประกาศสิ่งที่ อัดอั้น ตันใจ  ให้คนทั่วโลกรู้ จากการที่สื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อแทบลอยด์มักเขียนข่าวโจมตีพระชายาของพระองค์อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งที่ทำนั้นเหมือนกับที่พระมารดาของพระองค์ทรงโดนกระทำ เจ้าชายแฮร์รี่ทรงรู้สึกว่าพระองค์ไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับความช่วยเหลือจากราชสำนักเพียงพอ

และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไม ผู้ให้คำปรึกษาในราชสำนักที่มีประสบการณ์สูงถึงให้ สมาชิกราชวงศ์ระมัดระวังอย่างมากขณะให้สัมภาษณ์

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวที่น่าเชื่อยังให้ได้เผยกับ บีบีซี ด้วยว่า  เจ้าชายวิลเลียมทรงกริ้วเจ้าชายแฮร์รี่มาก และพระองค์ไม่ทราบมาก่อนว่าพระอนุชาจะทรงให้สัมภาษณ์ในสารคดีเช่นนั้น

เหตุที่เจ้าชายวิลเลียมทรงกริ้วมาก อันเนื่องมาจาก พระองค์ทรงตระหนักดีว่า สื่อต่างๆ สามารถเผยแพร่ข่าวต่างๆ ที่พระองค์ต้องการสื่อสารกับสังคม แต่เจ้าชายแฮร์รี่ยังไม่อาจก้าวข้ามความชิงชัง ความเคียดแค้นที่มีต่อบุคคล สถาบัน รวมถึงสื่อต่างๆ ที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าหญิงไดอานาทรงสิ้นพระชนม์ ทำให้พระองค์ทรงเสียพระมารดาไปก่อนวัยอันควร

แม้ว่าความสัมพันธ์ของเจ้าชายทั้งสองจะสั่นคลอนลงเรื่อยๆ ดูจากการแยกที่ประทับ รวมถึงองค์กรการกุศลที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ร่วมกัน แต่บทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งที่นอกจากเจ้าชายแฮร์รี่จะยอมรับว่า ทรงไม่สนิทสนมกับพระเชษฐาเหมือนดังเดิมแล้ว ถึงกระนั้นก็ตามพระองค์ก็ยังได้ตรัสถึงพระเชษฐาว่า

“ เราเป็นพี่น้องกัน เราจะเป็นพี่น้องกันเสมอ ถึงเราจะอยู่บนเส้นทางที่แตกต่างกันในเวลานี้ แต่ข้าพเจ้าจะอยู่กับเขาเสมอ เพราะข้าพเจ้ารู้ว่า เขาจะอยู่กับข้าพเจ้าเช่นกัน เราไม่ได้เห็นหน้ากันมากเหมือนที่เคยเป็นมา เพราะข้าพเจ้ายุ่งมาก แต่ข้าพเจ้ารักเขาอย่างสุดซึ้ง เนื้อหาส่วนใหญ่อันเหลวไหลถูกสร้างขึ้นมา มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย แต่ในฐานะพี่น้อง คุณมีทั้งที่วันดี และวันที่เลวร้าย”

ดัชเชสเคท

อย่างไรก็ตามหลังจาก ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ทรงให้สัมภาษณ์ในสารคดี “Harry & Meghan: An African Journey” สื่อดังอย่าง The Sun ได้ออกมารายงานว่า Phil Dampier นักเขียนข่าวราชวงศ์ เผยว่า ดัชเชสเคท แห่งเคมบริดจ์ พยายามที่จะทำให้เจ้าชายทั้งสองกลับมามีความพันธ์ที่ดีดังเดิม พระองค์จะทรงทำอย่างดีที่สุดถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากลำบากก็ตาม

ดัชเชสเคท

การนี้ดัชเชสเคทยังได้ตรัสผ่านโทรศัพท์กับดัชเชสเมแกนว่า ทรงเสียใจที่พระองค์ต้องเจอกับเรื่องกดดัน การถูกรุกรานจากสื่อแทลอยด์ ซึ่งในขณะนั้นดัชเชสแห่งซัสเซกส์กำลังทรงพระครรภ์ และตกอยู่ในภาวะอ่อนแอ ถึงแม้ว่าจะทรงมีพระประสูติกาลแล้ว ดัชเชสเมแกนก็ยังโดนสื่อโจมตีอย่างต่อเนื่อง  และอีกหนึ่งเหตุผลคือ คงไม่มีใครอยากทำให้ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงผิดหวังกับเรื่องที่เกิดขึ้น


ข้อมูล : BBC, บีบีซีไทย, The Sun

ภาพ : Getty Image

 

 

 

 

The post ดัชเชสเคท เผยจะพยายามอย่างดีที่สุดให้ เจ้าชายวิลเลียม-แฮร์รี่ กลับมาดีดังเดิม appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“จะต้องไม่ให้ทรงผิดหวัง”พระราชดำรัส ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ทรงเปิดงาน 30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา

$
0
0

เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานมูลนิธิชัยพัฒนา เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เพื่อทรงเปิดงาน “30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เมื่อปีพุทธศักราช 2531 โดยทรงมีวัตถุประสงค์เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎร ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทรงมุ่งหวังให้การช่วยเหลือนั้นๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎระเบียบเงื่อนไขใดอันจะส่งผลให้การช่วยเหลือล่าช้า

อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ตลอดระยะเวลา 30 ปี ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวการดำเนินงานต่างออกสู่สาธารณชนว่า ทำไมในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงทรงก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามูลนิธิชัยพัฒนาได้ทำอะไร ส่งผลแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างไร และประชาชนจะสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศนี้ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาอย่างไร ซึ่งเมื่อชมงานแล้ว ผู้เข้าชมจะสามารถหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ได้

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเรื่องเล่าเกี่ยวกับการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ความตอนหนึ่งว่า

“…พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไม่ได้ทรงสั่งเสียอะไรมากมาย แต่สั่งเสียอยู่เรื่องเดียวที่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหนัก คือต้องดำเนินการมูลนิธิชัยพัฒนาให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่ยังไงก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือ ความร่วมมือจากผู้ที่อยู่ในมูลนิธิเอง และก็พวกที่อยู่นอกมูลนิธิแต่ว่าก็มาช่วย

…ขอบคุณทุกๆ คนที่มาถึงวันนี้ 30 ปี คิดว่ายังทำงานได้ จะต้องไม่ให้ทรงผิดหวัง ตอนนี้ก็พยายามในเรื่องนี้ ก็ขยายไปสู่กลุ่มต่างๆ มากมาย… ช่วยกันทำถวายพระองค์มากขึ้น…”

ทั้งนี้ งาน 30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2562 ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยภายในงานตลอดหนึ่งสัปดาห์ ผู้มาชมงานจะได้ร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์การพัฒนา ผ่านของใช้ส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตอันเชิญมาจัดแสดงภายในงาน และการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาที่จำลองมาจัดแสดงในรูปแบบ AR 3 มิติ และ Interactive

ร่วมรับชม สารคดีสั้นสุดประทับใจ “ชัยชนะแห่งการพัฒนา” 4 เรื่อง 4 บทเรียน ที่สร้างจากเรื่องจริง ถ่ายทอดผ่านบุคคลจริง ซึ่งไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน ร่วมรับฟัง “เรื่องเล่า” การถวายงานจากวันนั้นสู่วันนี้ ก่อเกิดเป็น มูลนิธิชัยพัฒนา และอีกหลายเรื่องประทับใจจากบุคคลที่มีส่วนร่วมในชัยชนะแห่งการพัฒนา 

ร่วมรับรู้เรื่องราวอันยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งชัยชนะ ผ่านมุมมองของนักวาดภาพประกอบชื่อดัง ร่วมสนับสนุนสินค้าจากร้าน “ภัทรพัฒน์” ผลิตผลจากการพัฒนาโครงการมูลนิธิชัยพัฒนา และชุมชนต่างๆ และร่วมกิจกรรม Workshop ฝึกอบรมวิชาชีพที่หลากหลาย สามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้ในอนาคต


 

ภาพ : วรสันต์ ทวีวรรธนะ

The post “จะต้องไม่ให้ทรงผิดหวัง” พระราชดำรัส ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงเปิดงาน 30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

‘เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี’พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนแก่ ‘มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์’

$
0
0

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังห้อง 111 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ เพื่อทรงเป็นประธานการประชุม มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ ครั้งที่ 1/2562 เพื่อให้กรรมการมูลนิธิฯ รับทราบแนวทางการปฏิบัติงานของมูลนิธิฯ อีกทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการ ณ บริเวณด้านหน้าห้อง 111 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์

ทั้งนี้ มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ (Princess Sirivannavari Cultivated Arts Foundation) มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระราชประสงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านศิลปะและบุคลากรที่มีทักษะด้านศิลปะแขนงต่างๆ เพื่อให้มีการพัฒนาและเผยแพร่ผลงานด้านศิลปะให้เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติในด้านศิลปกรรม

ด้วยเหตุนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จึงพระราชทานพระดำริให้จัดตั้ง มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ และทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิฯ รวมถึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนเริ่มแรกให้แก่มูลนิธิฯ อีกด้วย

มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ มีวัตถุประสงค์สำคัญในการสงเคราะห์ช่วยเหลือนักเรียน นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่มีความสามารถทางด้านศิลปะ โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาและให้ทุนการวิจัย สร้างองค์ความรู้แก่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคลากรที่มีความสามารถทางด้านศิลปะ ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงาน และการเผยแพร่ผลงานด้านศิลปะ เพื่อเป็นเครื่องมือให้เกิดสาธารณประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ


 

ข้อมูลและภาพ : HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya, chula.ac.th

The post ‘เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี’ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนแก่ ‘มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์’ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

สูตรลดน้ำหนัก “ดัชเชสเคท”สาวๆ ทำตามได้ ดีต่อสุขภาพ

$
0
0

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ดารา นางแบบ หรือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์เท่านั้น ที่สาวๆ หลายคนจะสนใจอยากทราบเคล็ดลับการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลผิวพรรณ การรักษารูปร่าง และไลฟ์สไตล์ต่างๆ ฯลฯ แต่สตรีที่เป็นสมาชิกราชวงศ์ในสหราชอาณาจักร (ราชวงศ์อังกฤษ) นั้น ก็ได้รับความสนใจทั้งในเรื่องแฟชั่นและความสวยความงามไม่แพ้กัน 

โดยเฉพาะทั้งสองดัชเชส ดัชเชสเคทแห่งเคมบริดจ์ และดัชเชสเมแกนแห่งซัสเซกซ์ ที่ทรงอิทธิพลทั้งด้านแฟชั่นและบิวตี้กับสาวๆ ทั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ แพรวดอทคอม ได้นำเสนอบทความเรื่องการดูแลรักษารูปร่างของดัชเชสเมแกน เฉลย 10 เคล็ดลับรักษาหุ่นสุดเพอร์เฟ็คของ “ดัชเชสเมแกน” วิธีนี้ทำตามได้ง่ายมาก  รอบนี้จึงขอเสนอเคล็ดลับการสตั๊ฟฟ์รูปร่างให้สวยเป๊ะของ ดัชเชสเคทแห่งแคมบริดจ์ กันบ้าง

แน่นอนว่าการออกกำลังกายคือเบสิกของการลดน้ำหนัก และรักษาหุ่นให้เพอร์เฟ็กต์อยู่เสมอ ซึ่งดัชเชสเคทเองก็ชื่นชอบการออกกำลังกายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเดิน ว่ายน้ำ เล่นเทนนิส ปั่นจักรยาน พายเรือ หรือการใช้เครื่องออกกำลังกาย โดยจะออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน

และสูตรลดน้ำหนักที่ทำให้ดัชเชสเคทสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 13 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 3 เดือน หลังการคลอดบุตร ก็คือการเลือกทานแบบ Low Carb หรืออาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้น้อยที่สุด และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย โดยเน้นทานแป้งให้ได้น้อยที่สุดหรือไม่ทานเลย และเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ดัชเชสเคทยังชอบทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผักสดชนิดต่างๆ ให้เกิดความสมดุลกันด้วย ซึ่งหลายคนคงอยากรู้ว่าทาน Low Carb แบบดัชเชสเคท ต้องกินอะไรบ้าง ก็ตามนี้ค่ะ

 

  • เริ่มต้นด้วยอาหารประเภทโปรตีนจะต้องทานเป็นเนื้อสัตว์ที่ไร้ไขมัน และเลือกทานเฉพาะไข่ขาวเท่านั้น การทานอาหารแบบนี้จะเป็นสูตรอาหารสำหรับ 2 วัน หรือ 7 วันก็ได้
  • ทานเนื้อสัตว์ไปพร้อมๆ กับผักใบเขียว เช่น ผักกาดหอม กะหล่ำปลี ผักโขม เป็นต้น
  • หลังจากที่เริ่มการลดน้ำหนักไปสักพัก อาจเริ่มถอดใจและร่างกายอาจต้องการแป้งบ้าง อนุญาตให้ทานขนมปังจำนวน 2 แผ่น กับผลไม้ คาร์โบไฮเดรตปริมาณ 30 กรัม และชีส เป็นระยะเวลานาน 5 วัน แล้วหยุดกลับมาทานแบบ Low Carb เหมือนเดิม
  • งดทานอาหารจังก์ฟู้ดและขนมคบเคี้ยวต่างๆ ไปเลย เพราะนอกจากไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นตัวเร่งให้น้ำหนักเพิ่มด้วย


ภาพ : Getty Image

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เฉลย 10 เคล็ดลับรักษาหุ่นสุดเพอร์เฟ็คของ “ดัชเชสเมแกน” วิธีนี้ทำตามได้ง่ายมาก

เซฟไอเดียทรงผมออกงานกว่า 20 สไตล์ของ “ดัชเชสเคท” สวยหรูดูแกลมมาก

เปิดไอเท็มที่แฮร์สไตลิสต์พกไปเสมอ เมื่อต้องเดินทางติดตาม “ดัชเชสเคท”

งดงามไม่น่าเบื่อ…ดัชเชสเคท ในลุคผู้ดีอังกฤษกับทรงผม Faux Bob

กลิ่นน้ำหอมและเมคอัพไอเท็มที่ “เจ้าหญิงเคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ทรงโปรด

เผย 10 บิวตี้ไอเท็ม เมคอัพโทนธรรมชาติที่ “เจ้าหญิงเคท” ทรงเลือกใช้

รวมแฟชั่น 15 ทรงผมสุดเพอร์เฟ็กต์ของเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน

“ทรงผมโป่ง” ที่ “เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี” ทำ เป็นทรงผมนิยมในสมัยร.๖

งามอย่างไทย “มาดามแป้ง” ดูอ่อนกว่าวัย เวลาทำอะไรไม่ได้จริงๆ

7 สูตรลดน้ำหนัก ขจัดเซลลูไลต์ง่ายๆ สไตล์สาวออฟฟิศที่มีเวลาน้อย

สูตรนี้ทำตามได้! 5 วิธี ไดเอ็ท แบบธรรมชาติฉบับ Jun Ji Hyun ลดได้แน่นอน

เปิด สูตรลดน้ำหนัก ด้วยวิธีธรรมชาติ ช่วยลด 18 โลได้ในเวลาไม่นาน

วิธีลดน้ำหนัก ด้วยการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ได้ผลจริงหรือไม่?

สะดวกสูตรนี้ วิธีลดความอ้วน ของเซเลบสายหวาน พาย ภัทรียา ณ นคร ลองแล้วเห็นผล

อยากผอม หุ่นเป๊ะ สุขภาพดี ลองวิธีง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งพายาลดน้ำหนัก!

10 สูตรลดน้ำหนัก ใกล้ตัวที่ทำให้ผอม สวย แบบเฮลตี้ได้ไม่ยาก!!

ท่องให้ขึ้นใจ! 20 ข้อ Do & Don’t สำหรับสาวอยาก ผิวขาว สวยใส ทำได้ทุกวัน

5 ข้อควรรู้ของคน อยากผอม เลยลอง ดีท็อกซ์ลำไส้ วิธีนี้ช่วยได้จริงหรือมั่ว?

แชร์สูตร ลดพุง หุ่นปัง ผิวพรรณดี สวยใสสไตล์ “คิมเบอร์ลี่” ด้วยวิธีธรรมชาติ

รับมือสภาวะ Hit The Plateau หรือ “หิดปลาทู” แบบง่ายๆ ที่คนลดหุ่นต้องเจอ!

เห็นหน้ากดไลค์ เห็นหุ่นกดเลิฟ “ซูจี” สวยครบสูตรทั้งรูปร่างและผิวดีออร่าจับ

เบื้องหลังหุ่นนาฬิกาทรายที่โจษขานกันว่าน่ามอง ของซูเปอร์โมเดล “มิแรนด้า เคอร์”

สายเฮลท์มียัง! Fitbit Versa 2 สมาร์ทวอทช์สั่งงานจากเสียง ดูแลสุขภาพใกล้ชิด

 

 

The post สูตรลดน้ำหนัก “ดัชเชสเคท” สาวๆ ทำตามได้ ดีต่อสุขภาพ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ประมวลภาพขบวนเสด็จฯ “จักรพรรดินารุฮิโตะ” เฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

$
0
0

สืบเนื่องจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากความเสียหายของเหตุภัยพิบัติพายุฮากิบิส โดยเมื่อวานนี้ (10 พฤศจิกายน 2562) การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะได้จัดขึ้นแล้วอย่างสมพระเกียรติ ท่ามกลางความยินดีของประชาชนชาวญี่ปุ่น

ในการนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ประทับรถยนต์พระที่นั่งในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร เพื่อให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและชื่นชมพระบารมี ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

โดยเสด็จพระราชดำเนินจากพระราชวังอิมพีเรียล ในระยะทางประมาณ 4.6 กิโลเมตร ซึ่งรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงถึงยังพระตำหนักอากาซากะ ในเวลาประมาณ 15.30 น.

ตลอดเส้นทางของการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครครั้งนี้ เต็มไปด้วยประชาชนชาวญี่ปุ่นที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และถวายความยินดีกันอย่างเนืองแน่น

ทั้งนี้ ขบวนรถยนต์พระที่นั่งในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครครั้งนี้ มีความยาว 400 เมตร ประกอบด้วยยานพาหนะ 46 คัน โดยมีรถยนต์พระที่นั่งและรถยนต์ตามเสด็จ 20 คัน รถจักรยานยนต์ตำรวจ 8 คัน รวมทั้งรถจักรยานยานต์เสริมอีก 18 คัน

สำหรับรถยนต์พระที่นั่งเป็นรถที่ Toyota ผลิตขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ซึ่งเป็นรถยนต์พระที่นั่ง Toyota Century แบบเปิดประทุนคันเดียวในโลก เพื่อใช้ในพระราชพิธีนี้โดยเฉพาะ ขนาดรถยนต์พระที่นั่งมีความยาว 5.34 เมตร กว้าง 1.93 เมตร และคาดว่ามีราคากว่า 80 ล้านเยน หรือเกือบ 23 ล้านบาท


 

ข้อมูลและภาพ : Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทยครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น, AP, Reuters, AFP

The post ประมวลภาพขบวนเสด็จฯ “จักรพรรดินารุฮิโตะ” เฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ในหลวง-พระราชินี ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว พระแก้วมรกต

$
0
0

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต)

จากนั้น เสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปยังมณทลพิธีบวงสรวงสังเวย เพื่อทรงเททองหล่อเหรียญพระพุทธบุษยรัตนจักรพรรดิพิมลมณีมัย (พระแก้วขาว) และทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ


 

ข้อมูลและภาพ : khaosod.co.th, matichon.co.th, mgronline.com

The post ในหลวง-พระราชินี ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาว พระแก้วมรกต appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เปิดเหตุผล “พระราชพิธีไดโจไซ”จักรพรรดิญี่ปุ่น สำคัญอย่างไร ใช้งบสูงถึง 750 ล้านบาท

$
0
0

นอกจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 รวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งจำเป็นต้องเลื่อนออกมาจากหมายกำหนดการเดิม เนื่องจากความเสียหายของเหตุภัยพิบัติพายุฮากิบิส

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ก็ยังมีอีกหนึ่งพระราชพิธีในขั้นตอนสุดท้าย ที่ชื่อว่า “พระราชพิธีไดโจไซ” (Daijosai) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2562 ณ ศาลเจ้าชินโตชั่วคราวที่เรียกว่า “ไดโจคิว” โดยถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษในพระราชอุทยานทางทิศตะวันออกของพระราชวังหลวงในกรุงโตเกียว นับเป็นพระราชพิธีที่สำคัญที่สุด อีกทั้งยังถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากมีการใช้งบประมาณไปกับพระราชพิธีนี้เยอะที่สุดนั่นเอง

เหตุผลที่ “พระราชพิธีไดโจไซ” ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นการสักการะเทพีแห่งดวงอาทิตย์ “อามาเตระสึ โอมิกามิ” ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นเชื้อสายของสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นทุกพระองค์ โดยในขั้นตอนคร่าวๆ นั้น สมเด็จพระจักรพรรดิจะถวายข้าวที่เก็บเกี่ยวมาแด่เทพเจ้า จากนั้นจะเสวยเครื่องสังเวยพร้อมกับเทพเจ้า ซึ่งเป็นการทำตามคติความเชื่อและขั้นตอนแบบโบราณที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยจะทรงตั้งจิตสัตยาธิษฐาน ขอให้ประชาชนและประเทศชาติมีแต่ความอุดมสมบูรณ์และสงบสุข

นอกจาก “พระราชพิธีไดโจไซ” จะเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญที่สุดแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นขั้นตอนที่มีการใช้งบประมาณมากที่สุดในบรรดาขั้นตอนทั้งหมดของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอีกด้วย โดยมีการใช้งบประมาณและค่าใช้จ่ายในพระราชพิธีนี้อยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านเยน หรือประมาณ 750 ล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายก้อนโตตกอยู่ที่ “ไดโจคิว” หรือศาลเจ้าชินโตชั่วคราวที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ประกอบด้วยหมู่พระตำหนักกว่า 40 องค์ โดยใช้งบในการก่อสร้างไปถึง 957 ล้านเยน หรือประมาณ 266 ล้านบาท

แม้ว่าทางสำนักพระราชวังจะจัดการปรับลดขนาดพื้นที่ลงกว่า 77% เมื่อเทียบกับพระราชพิธีครั้งก่อน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วก็ตาม อีกทั้งในเม็ดเงินจำนวนนี้ยังไม่รวมถึงค่ารื้อถอนและค่าปรับปรุงสถานที่ให้กลับมาเหมือนเดิม เพราะสุดท้ายแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธี “ไดโจคิว” จะต้องถูกรื้อถอนออกตามธรรมเนียมโบราณ


 

ข้อมูลและภาพ : Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย, posttoday.com

The post เปิดเหตุผล “พระราชพิธีไดโจไซ” จักรพรรดิญี่ปุ่น สำคัญอย่างไร ใช้งบสูงถึง 750 ล้านบาท appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.


“กรมสมเด็จพระเทพฯ”เสด็จฯประทับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

$
0
0

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง เรื่อง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รายงานว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระอาการแน่นพระอุระ (อก) และพระหทัย (หัวใจ) เต้นเร็ว คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562 เพื่อถวายการตรวจพระหทัยอย่างละเอียด ผลการฉีดสีของหลอดพระโลหิตที่ไปเลี้ยงพระหทัยพบว่า มีการตีบของหลอดพระโลหิต 1 เส้น แต่ไม่จำเป็นต้องถวายการรักษาด้วยการทำบอลลูนหรือการใส่ขดลวด คณะแพทย์จึงได้ขอพระราชทานปรับพระโอสถ และขอพระราชทานให้ประทับพัก ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อติดตามผลการรักษา รวมทั้งขอพระราชทานให้ทรงงดพระราชกรณียกิจสักระยะหนึ่ง

จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

18 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562


ข้อมูลและภาพ : เรารัก กรมสมเด็จพระเทพรัตน ฯ : Our Beloved Princess Maha Chakri Sirindhorn

The post “กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จฯประทับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ภาพอบอุ่นใจ สองเจ้าฟ้านักขี่ม้า ณ งาน Princess’s Cup Thailand 2019

$
0
0

นับเป็นภาพที่อบอุ่นใจยิ่ง สำหรับบรรยากาศของพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand 2019 ที่เราได้เห็นความรักและความผูกพันระหว่าง 2 เจ้าฟ้านักขี่ม้าของปวงชนชาวไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงสนพระทัยในกีฬาขี่ม้าเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand

โดยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand 2019 โดยมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในฐานะองค์ประธานอำนวยการนโยบายการจัดการแข่งขันฯ เฝ้ารับเสด็จ ณ สนามกีฬาขี่ม้า กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพฯ

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประทานพระโอวาทแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯ ใจความตอนหนึ่งว่า “การแข่งขันขี่ม้าที่หน่วยม้าทรงประจำพระองค์จัดขึ้นในปีนี้ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่นักกีฬาขี่ม้าจะได้ฝึกฝนทักษะความเชี่ยวชาญ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาขี่ม้าระดับชาติและนานาชาติต่อไป”

จากนั้นทอดพระเนตรการแข่งขัน Concorde Show Jumping International Junior – Borrowed Horses หรือ CSIJ – B ซึ่งเป็นการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางรายการพิเศษสำหรับเยาวชนนานาชาติ และประทานรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ

สำหรับ การแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ  Princess’s Cup Thailand 2019 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 แล้ว ภายใต้สโลแกน “Keep Working, Riding Happy with 2 Hearts, Feeling for Feeling” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกีฬาขี่ม้า เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์การแข่งขัน ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่างๆ

โดยการแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand 2019 มีชมรมและสโมสรจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขัน 9 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย อิหร่าน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไชนีสไทเป อินเดีย และออสเตรเลีย อีกทั้งการแข่งขันในปีนี้ยังมีการยกระดับสู่สากลตามพระประสงค์ โดยจัดการแข่งขัน 5 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันศิลปะการบังคับม้า (Dressage) การแข่งขันกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง (Show Jumping) การแข่งขันอีเว้นท์ติ้ง (Eventing) การแข่งขันสุดยอดช่างเกือก (Best Farrier)  และการแข่งขันสุดยอดผู้ดูแลม้า (Best Groom)

ความเป็นมาของการแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นองค์ประธานจัดการแข่งขันฯ ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2545 และครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2547

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ของหน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ ต่อจากพระเชษฐภคินี โดยทรงมีพระประสงค์สานต่องานและพัฒนาวงการกีฬาขี่ม้า จึงรับสั่งให้หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าชิงถ้วยพระราชทานขึ้น โดยเน้นจุดสนใจและรายละเอียดมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญทั้งทหารและพลเรือน

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-24 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาขี่ม้าและร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้ ตั้งแต่เวลา 8.00-21.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


 

ข้อมูลและภาพ : dpe.go.th, matichon.co.th, Princess’s Cup

The post ภาพอบอุ่นใจ สองเจ้าฟ้านักขี่ม้า ณ งาน Princess’s Cup Thailand 2019 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“ในหลวง-พระราชินี”ทรงรับเสด็จ “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส”

$
0
0

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 17.05 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จฯออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เพื่อทรงรับเสด็จ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ณ รถยนต์พระที่นั่ง

จากนั้นเสด็จฯไปยังห้องเฝ้า เพื่อทรงแลกเปลี่ยนของขวัญ และฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระสันตะปาปา อีกทั้งทรงมีพระราชปฏิสันถารกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

เมื่อสมควรแก่เวลา สมเด็จพระสันตะปาปาทูลลา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี จากนั้นทั้งสองพระองค์ทรงส่งเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปา ณ รถยนต์พระที่นั่ง

ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ปัจจุบัน และนับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เฮ มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2479 ปัจจุบันทรงมีพระชนมายุ 82 พรรษา

สำหรับการเสด็จเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-23 พฤศจิกายน 2562

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 2 ที่เสด็จเยือนประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 ทรงเคยเสด็จเยือนประเทศไทย เป็นพระองค์แรกและเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2527 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


 

ข้อมูลและภาพ : เรารักพระราชวงศ์ไทย Thai Royal Family., matichon.co.th, th.wikipedia.org

The post “ในหลวง-พระราชินี” ทรงรับเสด็จ “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“ในหลวง-พระราชินี”เสด็จฯทอดพระเนตรคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ โดย “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี”

$
0
0

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เวลา 20.34 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปยังโรงละครแห่งชาติ เพื่อทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ ‘Four Royal Orchestral Suites for His Majesty King Rama X’ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

โดยมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในฐานะองค์อุปถัมภ์ มูลนิธิรอยัลแบงค์คอก ซิมโฟนีออร์เคสตร้า (RBSO) ทรงเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จทั้งสามพระองค์ด้วยพระองค์เอง

ทั้งนี้ การแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ ‘Four Royal Orchestral Suites for His Majesty King Rama X’ นิพนธ์และอำนวยการโดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในฐานะองค์อุปถัมภ์ มูลนิธิรอยัลแบงค์คอก ซิมโฟนีออร์เคสตร้า (RBSO)

โดยทรงตั้งพระปณิธานในการจัดการแสดงคอนเสิร์ตเพลงพระนิพนธ์ “Four Royal Orchestral Suites for His Majesty King Rama X” เพื่อถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

สำหรับ การแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ ‘Four Royal Orchestral Suites for His Majesty King Rama X’ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ทรงพระนิพนธ์ 4 บทเพลง คือ ตึกอิฐแห่งการเปลี่ยนแปลง (2562) Abode of Metamorphosis, เรื่องราวของม้า เฮเลน เฮนรี่ (2562) The Story About “Horse, Helen, Henry”, หลงทางในสวนแห่งเวทมนต์ (2559) Lost in mystical Garden และ ความสงบ (2560) Serenity

อีกทั้งประกอบด้วยนักดนตรีรับเชิญจาก วงเวียนนา ฟิลฮาร์โมนิก ออร์เคสตร้า ได้แก่ ดาเนียล ฟรอสเชาเออร์ – หัวหน้าวงรับเชิญ (Mr. Daniel Froschauer – Concertmaster), ลาดิสลาฟ พัพพ์ – นักฮาร์ปรับเชิญ (Mr. Ladislav Papp – Principal Harp) และ โรแบท นอจย์ (นักเชลโล่รับเชิญ (Mr. Robert Nagy – Principal Cello) มาร่วมบรรเลงกับวง RBSO เป็นครั้งแรก โดยมี มิเชล ทิลคิน เป็นผู้อำนวยเพลง (Michel Tilkin – Conductor)


 

ข้อมูลและภาพ : เรารักพระราชวงศ์ไทย Thai Royal Family., matichon.co.th

The post “ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯทอดพระเนตรคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ โดย “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ภาพชื่นใจพสกนิกร “กรมสมเด็จพระเทพฯ”ทรงอุ้ม “คุณใบตอง”ฉายพระฉายาลักษณ์

$
0
0

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 เวลา 17.34 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ไปทรงเปิดนิทรรศการ แมวเอ๋ย แมวเหมียว ณ ร้านภูฟ้าผสมผสาน ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมี ศ.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ประธานคณะทำงานดำเนินงานร้านภูฟ้า คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการบริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

ในการนี้ หลังจากที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกดปุ่มรูปแมวเพื่อทรงเปิดนิทรรศการ แมวเอ๋ย แมวเหมียว อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งทรงลงพระนามาภิไธยบนภาพวาดฝีพระหัตถ์ และเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการฯ เรียบร้อยแล้วนั้น

ในระหว่างก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงอุ้มคุณใบตอง แมวทรงเลี้ยง เพื่อฉายพระฉายาลักษณ์ กลายเป็นภาพสุดอบอุ่น ซึ่งทำให้พสกนิกรที่ได้เห็นปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับ นิทรรศการ แมวเอ๋ย แมวเหมียว มีการนำเสนอเรื่องราวแง่มุมต่างๆ ของแมว ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงคู่บ้านของมนุษย์มายาวนานหลายพันปี อีกทั้งเป็นเทพในอารยธรรมโบราณ เป็นสัตว์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นสัญลักษณ์ในพิธีกรรม เป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะและวรรณกรรม เป็นเครื่องมือช่วยคิดของนักวิทยาศาสตร์ และเป็นสัตว์มงคลในคติความเชื่อไทยโบราณอีกทั้ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังพระราชทานพระราชานุญาตให้นำภาพถ่ายฝีพระหัตถ์แมวทรงเลี้ยงในวังสระปทุมและแมวอื่นๆ รวมถึงตุ๊กตาแมวของสะสมส่วนพระองค์มาจัดแสดงในนิทรรศการนี้ด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ แมวเอ๋ย แมวเหมียว ที่ร้านภูฟ้าผสมผสาน ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.


 

ข้อมูลและภาพ : khaosod.co.th, mgronline.com

The post ภาพชื่นใจพสกนิกร “กรมสมเด็จพระเทพฯ” ทรงอุ้ม “คุณใบตอง” ฉายพระฉายาลักษณ์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

โปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ เผยแพร่เพื่อเฉลิมพระเกียรติ

$
0
0

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 เว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์ (www.prd.go.th) ได้เผยแพร่พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี จำนวน 13 พระรูป

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่พระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าว เพื่อมอบให้ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เชิญไปเผยแพร่เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ ด้วยความจงรักภักดี

โดยสามารถดาวน์โหลดพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งหมดได้ที่ เว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์ (www.prd.go.th)


 

The post โปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ เผยแพร่เพื่อเฉลิมพระเกียรติ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ความเป็นมา 4 เรือพระที่นั่ง ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค พุทธศักราช 2562

$
0
0

หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 เสร็จสิ้นเรียบร้อยไปแล้วนั้น ก็ยังมีอีกหนึ่งพระราชพิธีสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือ การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2562

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เริ่มจากท่าวาสุกรีไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน

โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค พระราชพิธีบรมราภิเษก พุทธศักราช 2562 ประกอบด้วยกำลังพลประจำเรือในทุกริ้วขบวน จำนวน 2,200 นาย ใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ ซึ่งเป็นเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ แพรวดอทคอม จึงรวบรวมประวัติความเป็นมาของเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ มาแบ่งปันเป็นความรู้แก่ทุกคน ก่อนจะถึงพระราชพิธีสำคัญนี้

 

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ได้รับรางวัลยกย่องให้เป็นเรือมรดกโลก จากองค์กรที่เรียกว่า World Ship Trust เมื่อพุทธศักราช 2535 สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 5 แล้วเสร็จสิ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 มีอายุ 108 ปี อีกทั้งยังมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ดังปรากฏในกาพย์เห่เรือพระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรว่า “สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย​ งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์​​ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม”

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์หรือเรือสุวรรณหงส์ มีมาแต่ครั้งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เรียกว่า “เรือไชยสุพรรณหงส์” ในรัชกาลที่ 2 สมัยรัตนโกสินทร์ มีเรือชื่อว่า “เรือศรีสุพรรณหงส์” และในจดหมายเหตุต่างๆ ครั้งรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4 ออกชื่อว่า “สุพรรณหงส์” ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกเป็น “ศรีสุพรรณหงส์” ก็มี “ไชยสุพรรณหงส์” ก็มี สมัยรัชกาลที่ 6 โปรดให้สร้างเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ขึ้นใหม่ใช้แทนลำเดิมที่ทรุดโทรม

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำปัจจุบัน เป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง สร้างด้วยไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจก หัวเรือพระที่นั่งมีโขนเรือรูปหัวของหงส์ ลำตัวเรือทอดยาวคือส่วนตัวหงส์ จำหลักไม้ลงรักปิดทองประดับกระจกมีพู่ห้อย ปลายพู่เป็นแก้วผลึก ภายนอกทาสีดำ ท้องเรือทาสีแดง ตอนกลางลำเรือมีที่ประทับเรียกว่า ราชบัลลังก์กัญญา สำหรับพระเจ้าอยู่หัวหรือพระราชวงศ์ชั้นสูง ตัวเรือกว้าง 3.14 เมตร ยาว 44.90 เมตร กินน้ำลึก 0.41 เมตร ฝีพาย 50 นาย นายท้าย 2 นาย นายเรือ 2 นาย พลธงท้าย 1 นาย พลสัญญาณ 1 นาย คนเห่ 1 นาย

สำหรับความหมายของชื่อนั้น “หงส์” เป็นพาหนะของพระพรหม ซึ่งเป็นเทพผู้สร้างตามที่ปรากฏในศาสนาพราหมณ์ฮินดู ในคัมภีร์พระเวทกล่าวว่า พระพรหมเป็นเทพผู้สร้างโลก จากนั้นจึงสร้างสิ่งต่างๆ คัมภีร์พระเวทซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญของศาสนาพราหมณ์ก็มาจากพระโอษฐ์ของพระพรหม พราหมณ์จึงนับถือพระพรหมเพราะเป็นผู้สร้างสิ่งต่างๆ ในจักรวาล

ส่วนคัมภีร์ปุราณะกล่าวถึงกำเนิดของพระพรหมว่า ครั้งหนึ่งพระนารายณ์บรรทมอยู่เหนือพญาอนันตนาคราช ได้บังเกิดดอกบัวผุดออกมาจากพระนาภี เมื่อดอกบัวบานปรากฏว่ามีพระพรหมประทับอยู่ภายใน จากนั้นพระพรหมจึงสร้างโลก พระพรหมทรงมี “หงส์” เป็นพาหนะ ไทยจึงสร้างเป็นโขนเรือพระที่นั่งเป็นรูปหงส์ แสดงถึงคติความเชื่อตามศาสนาพราหมณ์ฮินดู ดังความว่า “เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์”

 

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลำแรกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 (พุทธศักราช 2367 – 2394) แต่เริ่มใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารคในสมัยรัชกาลที่ 4 (พุทธศักราช 2394 – 2411) ปรากฏชื่อว่า เรือพระที่นั่งบัลลังก์อนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลำปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 6 (พุทธศักราช 2453 – 2468) และเริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เมษายน พุทธศักราช 2457

เป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง หัวเรือจำหลักรูปพญานาคเจ็ดเศียร ลงรักปิดทองประดับกระจก ท้องเรือภายในทาสีแดง ภายนอกทาสีเขียว กลางลำเรือเป็นบุษบกประดิษฐานพระพุทธรูปหรือผ้าพระกฐิน เรือมีความยาว 44.85 เมตร กว้าง 2.58 เมตร ลึกถึงท้องเรือ 87 เซนติเมตร กินน้ำลึก 31 เซนติเมตร ใช้กำลังพลประกอบด้วย ฝีพาย 54 คน นายเรือ 2 คน นายท้าย 2 คน คนถือธงท้าย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนถือฉัตร 7 คน คนถือบังสูรย์-พัดโบก-พระกลด 3 คน และคนเห่เรือ 1 คน

ชื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช มาจากคำภาษาสันสกฤตว่า อนนฺตนาคราชะ มาจากคำ 3 คำ คือ อนนฺตะ (แปลว่า ไม่สิ้นสุด นิรันดร) นาคะ (แปลว่า นาค หรือ งู) ราชะ (แปลว่า เจ้านาย หรือพระราชา) ดังนั้นคำนี้จึงแปลได้ว่า อนันตะ ราชาแห่งนาค หรืองูทั้งหลาย

ในฮินดูปกรณัมปรัมปรา อนันตะ หมายถึง งูเทพ หรือ งูทิพย์ ผู้มีพลังยิ่งใหญ่ รู้จักกันในชื่อ เศษะ หรือ อาทิเศษะ เป็นผู้ที่มีเศียรหนึ่งพัน และประดับด้วยอัญมณีหนึ่งพันที่ส่องประกายสว่างจ้าไปทุกหนแห่ง

คัมภีร์ปุราณะของอินเดียกล่าวว่า อนันตะอาศัยอยู่ลึกลงไปกว่าโลกบาดาลทั้ง 7 ชั้น และแบกโลกทั้งหมดไว้บนเศียร คราใดที่อนันตะหาว โลกก็สั่นไหว บางคัมภีร์อธิบายว่า อนันตะมีชื่ออีกอย่างว่า วาสุกิ (ไทยเรียก วาสุกรี) ซึ่งมี 7 เศียรและอยู่ในโลกบาดาลชั้นที่ 7 อนันตะปกครองนาคทั้งหลาย เรื่องราวจากคัมภีร์ข้างต้นให้อิทธิพลต่อความเชื่อของคนไทยที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ใต้โลกของเรามีปลาอานนท์ ซึ่งแบกโลกไว้ คราใดปลาอานนท์ขยับตัว โลกจะสั่นคลอนเกิดแผ่นดินไหว และยังมีความเชื่ออีกว่า พญานาคเจ็ดเศียรบันดาลให้เกิดฝน

ความเชื่อที่ว่าพระเจ้าแผ่นดินของไทยเป็นอวตารของพระวิษณุลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ดังนั้นพระองค์จึงควรมีเรือพระที่นั่งเป็นพญาอนันตนาคราช ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องราวที่ว่า พระวิษณุประทับบรรทมบนพญาอนันตนาคราชในช่วงกาลดับสลายและเริ่มต้นการสร้างโลกและจักรวาลขึ้นใหม่

 

เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นเรือพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้นำเรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณ ซึ่งสร้างแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มาสร้างรูปพระนารายณ์ทรงยืนอยู่เหนือรูปครุฑยุดนาคที่มีอยู่เดิม จึงเป็นเรือพระที่นั่งเพียงลำเดียวที่มีโขนเรือเป็นรูปเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ฮินดู พระราชทานนามเรือพระที่นั่งลำนี้ว่า เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ขนาดตัวเรือยาว 17 วา 2 ศอก กว้าง 5 ศอก 5 นิ้ว ท้องลึก 1 ศอก 6 นิ้ว พื้นทาสีแดง ใช้ฝีพาย 65 นาย

ต่อมาเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณชำรุดจนไม่อาจใช้การได้ จึงมีการสร้างเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณขึ้นใหม่ แล้วเสร็จเมื่อพุทธศักราช ๒๕๓๙ พระราชทานนามว่า “เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9” ซึ่งสร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เมื่อพุทธศักราช 2539 ดำเนินการโดยกองทัพเรือร่วมกับกรมศิลปากร

โขนเรือและตัวเรือจำหลักลงรักปิดทองประดับกระจก ที่หัวเรือเบื้องใต้ครุฑเป็นช่องสำหรับปืนใหญ่ กลางลำเรือทอดบัลลังก์กัญญาและมีแท่นประทับ เรือมีความยาว 44.30 เมตร กว้าง 3.20 เมตร ลึกถึงท้องเรือ 1.10 เมตร กินน้ำลึก 40 เซนติเมตร น้ำหนัก 20 ตัน ใช้กำลังพลประกอบด้วย ฝีพาย 50 คน นายเรือ 2 คน นายท้าย 2 คน คนถือธงท้าย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนถือฉัตร 7 คน และคนเห่เรือ 1 คน

นารายณ์ทรงสุบรรณ มีความหมายเดียวกันกับ พระวิษณุทรงครุฑ เนื่องจาก นารายณะ (ไทยเรียก นารายณ์) เป็นพระนามหนึ่งของพระวิษณุ ส่วนสุบรรณ ก็เป็นชื่อเรียก ครุฑ หรือพญาครุฑ พาหนะของพระวิษณุ ส่วนที่เติมสร้อยว่า รัชกาลที่ 9 เพื่อสื่อให้ประจักษ์ว่าเรือลำนี้สร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 เนื่องจากชื่อเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณมีมาแล้วแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ 3

หัวเรือพระที่นั่งจำหลักรูปพระวิษณุประทับยืนบนครุฑ บ่งบอกอิทธิพลศาสนาฮินดูตามคัมภีร์ปุราณะจากอินเดียที่มีต่อประเพณีนิยมและศิลปกรรมไทย พระวิษณุเป็นหนึ่งในเทพเจ้าสำคัญที่สุด 3 องค์ อีก 2 องค์ คือ พระพรหมและพระศิวะ ซึ่งพระวิษณุเป็นเทพเจ้าแห่งการพิทักษ์รักษา พระองค์ถือกำเนิดบนโลกมนุษย์ในรูปร่างต่างๆ เรียกว่า อวตาร เชื่อกันว่าทรงแบ่งภาคลงมากำเนิดเป็นพระราชาได้ในทุกสถานที่และทุกกาลเวลา

ในพุทธศตวรรษที่ 19 ราชสำนักไทยได้รับเอาแนวคิดเช่นนี้มา ทำให้เกิดความเชื่อในหมู่ประชาชนซึ่งเกื้อหนุนสถานภาพของพระมหากษัตริย์ให้สูงส่งประหนึ่งเทพ อย่างไรก็ดี โขนเรือพระที่นั่งลำนี้มิได้แสดงรูปพระรามซึ่งเป็นอวตารของพระวิษณุ ซึ่งพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์มีสมมติพระนามโดยเรียกตามนามของพระราม แต่ได้แสดงรูปพระวิษณุและลักษณะอันโดดเด่นของพระองค์ เช่น พระวรกายคล้ำ ในพระกรทั้ง 4 ทรงถือจักร สังข์ คทา และตรีศูล ประทับบนครุฑยุดนาค หรือครุฑที่จับนาค 2 ตัวชูขึ้น

ตามคัมภีร์ปุราณะ ครุฑกับนาคเป็นศัตรูกัน แต่ทั้งสองก็รับใช้พระวิษณุ ครุฑเจ้าแห่งนกทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของท้องฟ้า นาคเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของน้ำ เมื่อพระวิษณุอยู่เหนือครุฑและนาค ย่อมแสดงว่าพระองค์ทรงมีพลังในการพิทักษ์ปกป้องโลกทั้งมวล

 

เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างในรัชกาลที่ 5 มีอายุกว่า 102 ปี ลำเรือภายนอกทาสีชมพู ท้องเรือภายในทาสีแดง หัวเรือลงรักปิดทองลายรดน้ำเป็นรูปนาคตัวเล็กๆ จำนวนมาก ตอนกลางลำเรือมีราชบัลลังก์กัญญา ซึ่งเป็นที่ประทับเปลื้องเครื่องหรือเปลื้องพระชฎามหากฐินของพระเจ้าอยู่หัวก่อนเสด็จขึ้นหรือลงเรือพระที่นั่งอีกลำ เรือมีความยาว 45.67 เมตร กว้าง 2.91 เมตร ลึกถึงท้องเรือ 91 เซนติเมตร กินน้ำลึก 46 เซนติเมตร น้ำหนัก 7.7 ตัน กำลังพลประกอบด้วย ฝีพาย 61 คน นายเรือ 2 คน นายท้าย 2 คน คนถือธงท้าย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนถือฉัตร 7 คน คนขานยาว 1 คน คนขานยาวทำหน้าที่ในการร้องขานเพลงเรือ โดยฝีพายจะร้องเห่เรือพร้อมกันไปตามจังหวะร่วมกับเรือลำอื่นๆ

ชื่อเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์มาจากคำภาษาสันสกฤตว่า อเนกะชาตะภุชงฺคะ แปลว่า งูหลากหลายชนิด ซึ่งสอดคล้องกับรูปโขนเรือที่ลงรักปิดทองมีลายรูปงูตัวเล็กๆ จำนวนมาก คำภาษาสันสกฤตคือ ภุชงฺคะ มีความหมายเดียวกันกับ นาคะ หรือไทยเรียกว่า นาค เป็นเทพในฮินดูปกรณัมปรัมปรา บางครั้งก็ปรากฏในพระพุทธศาสนาด้วย นาคที่เป็นเทพหรือทิพยนาคเป็นตัวแทนแห่งพลังอำนาจ ความรอบรู้ และความอุดมสมบูรณ์ โดยเทพเจ้าหลายองค์ของศาสนาฮินดูโยงใยกับนาคหรือที่ปรากฏในรูปร่างของงู หรืองูเทพ (งูทิพย์) เช่น พระวิษณุบรรทมบนพญานาคอนันตะหรือเศษะนาคทอดตัวอยู่เหนือแผ่นน้ำ


 

ข้อมูลและภาพ : พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช๒๕๖๒, www.phralan.in.th, เรือพระราชพิธี

The post ความเป็นมา 4 เรือพระที่นั่ง ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค พุทธศักราช 2562 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.


“เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี”ทรงนำทัพนักกีฬาขี่ม้าไทยคว้าเหรียญทองการแข่งขันระดับเอเชีย

$
0
0

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2562 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังสนามไทยโปโล แอนด์ อีเควสเตรียนคลับ พัทยา ทรงนำนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ร่วมแข่งขัน รายการ FEI Asian Championships Pattaya 2019 ประเภทศิลปะการบังคับม้า หรือ เดรสซาจ

โดยการแข่งขันครั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงลงแข่งขันทั้งประเภททีม และประเภทบุคคล สำหรับนักกีฬาประเภททีมอีก 3 คน ประกอบด้วย นางสาวภัคจิรา ธงภักดิ์, นางสาวอาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์ และนางสาวอภิษฎา บรรณกิจโศภน ในการแข่งขันระดับปรีเซนต์จอร์จ (Prix St.Georges) ประเภททีมรอบแรก ตามกติกาของสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ หรือ เอฟอีไอ มีนักกีฬาจาก 6 ประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย ไทย, จีนไทเป, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, จีน และสิงคโปร์

สำหรับการขี่ม้าประเภทศิลปะการบังคับม้า หรือ เดรสซาจ เป็นการขี่ม้าตามท่าทางที่กำหนด บังคับม้าให้เคลื่อนไหวภายในสนาม มีการกำหนดจุดและวิธีปฏิบัติท่าต่างๆ คณะกรรมการจะดูว่านักกีฬาสามารถบังคับม้าได้ถูกต้องและสวยงามเพียงใด โดยจะนำคะแนนของนักกีฬา 3 คนที่ดีที่สุดมารวมกัน เพื่อหาทีมที่ชนะ

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงม้าส่วนพระองค์ “ปรินซ์ ชาร์มมิ่ง ดับบลิวพีเอ” ลงแข่งขันในลำดับที่ 3 ผลการแข่งขันปรากฏว่า นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยทำผลงานคะแนนรวมเป็นอันดับที่ 1 ได้รับเหรียญทอง ส่วนเหรียญเงิน ได้แก่ จีนไทเป และเหรียญทองแดง ได้แก่ อินโดนีเซีย

นอกจากนี้ ภายหลังทรงรับเหรียญรางวัลพร้อมกับนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานพระวโรกาสให้สื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ทรงนำนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขัน รายการ FEI Asian Championships Pattaya 2019 อีกด้วย


 

ข้อมูลและภาพ : news.ch7.com, HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya, Royal Stable Unit of Thailand

The post “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” ทรงนำทัพนักกีฬาขี่ม้าไทยคว้าเหรียญทองการแข่งขันระดับเอเชีย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

พระองค์เจ้าโสมสวลี-เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงช่วยกันทรงงานด้านการช่วยเหลือผู้ป่วย HIV

$
0
0

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อทรงร่วมประชุม Asia – Pacific Youth Forum : Youth at the front of the HIV response

สำหรับการประชุม Asia – Pacific Youth Forum : Youth at the front of the HIV response เป็นการประชุมระดับนานาชาติที่กระทรวงสาธารณสุขจัดขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสที่ทรงได้รับการถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ในการป้องกันเอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

อีกทั้งเพื่อร่วมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก ปี พ.ศ. 2562 และส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งเน้นประเด็นการแก้ไขปัญหาเอชไอวีในกลุ่มเยาวชนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

โดยมีการหารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างเยาวชน หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคประชาชน รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับความต้องการของเยาวชน เพื่อเร่งรัดด้านการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการยุติปัญหาเอดส์

ผู้เข้าประชุมประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้บริหารแผนงานเอดส์ระดับประเทศ นายกเทศมนตรี ผู้นำเยาวชน ผู้ปฏิบัติงานด้านเยาวชนในองค์กรระหว่างประเทศ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวม 17 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ฟิจิ จีน มองโกเลีย เนปาล อินเดีย ปากีสถาน ติมอร์-เลสเต  ปาปัวนิวกีนี  เวียดนาม ศรีลังกา และไทย รวมผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 140 คน

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ยังคงทรงงานด้านการช่วยผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีอย่างไม่ขาด แม้จะยังไม่ทรงหายดีจากพระอาการประชวร โดยมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พระธิดาทรงคอยดูแลและช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดในทุกๆ พระกรณียกิจ


 

ข้อมูลและภาพ : ddc.moph.go.th, กลุ่มประชาสัมพันธ์และข่าว สลก. กรมควบคุมโรค

The post พระองค์เจ้าโสมสวลี-เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงช่วยกันทรงงานด้านการช่วยเหลือผู้ป่วย HIV appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

9 ของใช้ส่วนพระองค์ของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9”ดูแล้วรู้ซึ้ง พ่อทรงงานหนักเพียงใด

$
0
0

ความมัธยัสถ์ถือเป็นคุณูปการสำคัญที่ทำให้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเรียนรู้หลักความพอเพียง สมถะมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ จนกระทั่งสมเด็จย่ามีพระดำรัสในเวลาต่อมาว่า “ในสวนจิตรเนี่ย คนที่ประหยัดที่สุดคือในหลวงรัชกาลที่ 9 ประหยัดที่สุดทั้งน้ำ ทั้งไฟ เรื่องฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไม่มี” ดังเช่นของใช้ส่วนพระองค์ที่รวบรวมมาให้ชมนี้ ซึ่งทำให้รู้ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงพอเพียงและทรงงานหนักเพียงใดเพื่อปวงชนชาวไทย

 

ฉลองพระบาท

1922328_531936310259154_981908255_nภาพจาก Facebook ต้นแบบแห่งชีวิต รองเท้าของพ่อ14650484_1517267088289240_8586008727209328030_n

ฉลองพระบาทคู่โปรดของพระองค์ท่านนั้น ถึงจะเก่าแต่ก็นำมาซ่อมเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถซ่อมได้แล้วจึงหยุด รองเท้าหนังสีดำธรรมดา สภาพชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งานหลายสิบปี ภายในรองเท้าผุกร่อนหลุดล่อนหลายแห่ง ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปก็อาจจะทิ้งไปแล้ว เป็นสิ่งที่คุณศรไกร แน่นศรีนิล ช่างทำรองเท้าร้าน ก.เปรมศิลป์ (สี่แยกพิชัย) ได้เล่าย้อนถึงวันวานอันแสนประทับใจ

ในสมัยนั้นคุณศรไกรหลังจากที่เป็นลูกจ้างร้านซ่อมรองเท้ามาสิบกว่าปี ก็ได้มาเปิดร้านของตัวเองแถบถนนพิชัย วันหนึ่งเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังก็ได้ถือพานใส่รองเท้าเข้ามาในร้าน และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันทรงเกียรติที่ได้มีโอกาสถวายงานแก่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยาวนานเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งในครั้งแรกนั้นนอกจากจะใช้เวลาซ่อมฉลองพระบาทคู่สีดำเกือบเดือน เขายังถือโอกาสตัดฉลองพระบาทถวายพระองค์ท่านเพิ่มอีกคู่หนึ่งด้วย หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสซ่อมฉลองพระบาทอีก 4 คู่ที่ทรุดโทรมแตกต่างกันไป

ปัจจุบันนี้ร้าน ก.เปรมศิลป์ (สี่แยกพิชัย) ได้เก็บรักษาชิ้นส่วนพื้นฉลองพระบาทใส่กรอบไว้บนหิ้งบูชา ตกแต่งอย่างดี มีพานและผ้าคลุมพานสีเหลือง


กล้องถ่ายภาพคู่พระหัตถ์รุ่นแรก

14680697_1517288098287139_6000191992939672318_n

k02

ภาพ : topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/10/X7126197/X7126197.html

จากภาพในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ และภาพบนอินเทอร์เน็ตที่ปล่อยออกมาอยู่เนืองๆ เรามักจะได้เห็นภาพที่พระองค์ท่านทรงพกกล้องถ่ายภาพ และอยู่ในพระอิริยาบถของนักถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเสด็จฯไปที่ใดเสมอ แค่เฉพาะกล้องถ่ายภาพคู่พระหัตถ์ที่เป็นกล้องฟิล์มก็มีกว่า 20 รุ่น ฉายภาพร้อยเรียงเรื่องราวและแสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพ ซึ่งพระองค์ท่านมีพระปรีชาสามารถไม่แพ้ด้านอื่น สำหรับกล้องตัวแรกที่ทรงใช้เป็นกล้องตัวเล็กๆ มีชื่อว่า Coronet Midget สีเขียวปะดำ ของฝรั่งเศส ราคา 2 ฟรังก์สวิส ที่พระองค์ท่านทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนมายุเพียง 8 พรรษา ราวปี พ.ศ.2479


ดินสอทรงงาน

14680592_1517266814955934_823383461601918483_n 14681606_1517266794955936_1659378762193505935_n

อย่างที่ทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นแบบอย่างในหลายด้านแก่ปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ “ความพอเพียงและความประหยัดอดออม” ซึ่งดินสอไม้ที่พระองค์ทรงใช้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงด้านนี้ได้เป็นอย่างดี มีบันทึกว่าในปีหนึ่งพระองค์จะทรงเบิกดินสอที่มียางลบติดท้ายแท่ง เพียงแค่ 12 แท่งเท่านั้น โดยใช้เดือนละ 1 แท่ง จนกระทั่งดินสอแท่งนั้นกุดจนเขียนไม่ได้แล้วจึงเปลี่ยน ซึ่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท โดยครั้นเมื่อทรงศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา พระองค์ท่านทรงใช้ดินสออย่างคุ้มค่าที่สุด เมื่อสั้นจะทรงใช้กระดาษมาม้วนต่อปลายดินสอให้ยาว เพื่อให้เขียนได้ถนัดมือจนกระทั่งหมด

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมพระองค์ท่านจึงทรงเลือกใช้ดินสอในการทรงงานแทนปากกาตามสมัยนิยม ที่เป็นเช่นนั้นเพราะด้วยทรงเห็นว่าราคาถูกและผลิตได้ในประเทศ อีกทั้งเมื่อผิดก็สามารถลบออกได้ง่าย


สมุดบันทึกส่วนพระองค์

14713780_1517287064953909_3515382264552126054_n


หลอดยาสีพระทนต์

14720581_1517286748287274_681974822846417471_n

ภาพหลอดยาสีพระทนต์นี้จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีลักษณะแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยิ่งปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพระองค์ท่านทรงใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกดจนเป็นรอยบุ๋ม หลายคนคงตั้งคำถามว่าแล้วภาพหลอดยาสีพระทนต์ส่วนพระองค์นี้มีมาให้เราชมได้อย่างไร เรื่องราวมีที่มาดังนี้

ครั้งหนึ่งแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ประจำพระองค์ และอดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กราบถวายบังคมทูลเรื่องศิษย์ทันตแพทย์จุฬาฯแก่พระองค์ท่าน ใจความเกี่ยวกับค่านิยมอันฟุ้งเฟ้อในการใช้ของนอกและมีราคาแพง ซึ่งมีความแตกต่างจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงนิยมใช้กระเป๋าผลิตภายในประเทศเช่นสามัญชนทั่วไป ทรงใช้ดินสอสั้นจนต้องต่อด้าม หรือแม้แต่ยาสีพระทนต์ของพระองค์ท่านก็ทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนแบน ไม่หลงเหลือยาสีพระทนต์อยู่ในหลอด

ครั้นเมื่อกราบบังคมทูลเสร็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงรับสั่งว่าของพระองค์ท่านก็เหมือนกัน อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้มหาดเล็กห้องสรงเห็นว่ายาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ทรงทราบ ก็ได้ขอให้เขานำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน ด้วยพระจริยวัตรที่ดีงาม ทันตแพทย์ประจำพระองค์จึงได้กราบพระบาททูลขอพระราชทานหลอดยาสีพระทนต์หลอดนั้นไปประดับที่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อนำไปเป็นเครื่องเตือนใจให้ศิษย์รู้จักประหยัด ลดการใช้ของฟุ่มเฟือย

ที่มา : ประภาส ชลศรานนท์ จากหนังสือพิมพ์มติชน วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2543 คอลัมน์ “คุยกับประภาส”


อุปกรณ์งานช่าง งานวิจัยส่วนพระองค์

14716307_1520684244614191_2192982430680277529_n


ของเล่นส่วนพระองค์

14729366_1520683051280977_4030523746121891840_n


แผนที่ของในหลวงรัชกาลที่ 9

k04

k04-1
ภาพจาก board.palungjit.org

หากได้ติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านอย่างต่อเนื่อง จะพบว่านอกเหนือจากดินสอไม้มียางลบที่เป็นสิ่งของทรงงาน ทุกครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จฯไป ณ สถานที่ใด จะต้องมีแผนที่อยู่แผ่นหนึ่งติดข้างพระวรกายเสมอ ซึ่งแผนที่ฉบับนั้นเรียกว่า “แผนที่มาตราส่วน 1 : 50,000” เป็นเครื่องมือที่นายช่างชลประทานใช้ในการวางโครงการชลประทานเบื้องต้น และหากคลี่แผนที่ของพระองค์ท่านออกมา จะพบว่ามีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากทรงนำแผนที่หลายแผ่นมาต่อกันด้วยพระองค์เองอย่างปราณีต ขนาดถึง 9 แผ่น หรือ 9 ระวาง แล้วพับให้เหลือขนาดที่ทรงพกพาได้สะดวก เพื่อสามารถคลี่มาดูจุดที่ต้องการได้ในทันทีโดยไม่ต้องกางทั้งแผ่น

ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่าถึง “แผนที่ของในหลวงรัชกาลที่ 9” ไว้ในรายการวิทยุ “พูดจาภาษาช่าง” ทางสถานีวิทยุจุฬาฯ โดยจะขอยกมาใจความหนึ่ง นอกเหนือจากขนาดที่กว้างกว่าแผนที่คนอื่น “ทุกครั้งก่อนที่จะเสด็จฯไปไหน พระองค์ท่านจะทรงเตรียมทำแผนที่และศึกษาแผนที่นั้นโดยละเอียด แล้วเมื่อเสด็จฯไปถึง พระองค์ท่านจะทรงสอบถามชาวบ้านว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน ทิศเหนือมีอะไร ทิศใต้มีอะไร ถามหลายๆ คน แล้วตรวจสอบไปมา ระหว่างที่ถามนั้นดูจากแผนที่ว่าแผนที่อันนั้นถูกต้องดีหรือไม่ น้ำไหลจากไหนไปที่ไหน” ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นสาเหตุว่าทำไมแผนที่ของพระองค์ท่านจึงเต็มไปด้วยรอยปะกาว


นาฬิกาส่วนพระองค์

14641 longlivetheking

พระองค์ทรงไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องใช้ของแพง หรือต้องเป็นแบรนด์เนม ไม่โปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้นนาฬิกา

14753453_1467369316623810_103609050261642367_o14721549_1467369236623818_6363680367174769740_n

คลังภาพในหลวงในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี นาฬิกาบนข้อพระหัตถ์คือ Seiko SKJ045P นาฬิกาดำน้ำระบบ Kinetic ตัวเรือนเป็นไทเทเนียม ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิการะดับธรรมดามากๆ เรียกภาษาชาวบ้านคือเป็นนาฬิกาใช้งาน แสดงถึงความเรียบง่ายและสมถะของพระองค์ท่าน และทรงเป็นแบบอย่างแห่งความพอเพียงอย่างที่สุด

ข้อมูลเรื่องนาฬิกา Withaya Heng


ขอบคุณข้อมูล: ddproperty.com เขียนโดย วัลย์ลดา หาญยุทธ
และภาพบางส่วน Timporn Chayawuttipong

The post 9 ของใช้ส่วนพระองค์ของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ดูแล้วรู้ซึ้ง พ่อทรงงานหนักเพียงใด appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ในหลวง ร.10 ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวง ร.9

$
0
0

วันนี้ (5 ธันวาคม 2562) เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเข้าร่วมพระราชพิธีด้วย รวมถึง ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เข้าร่วมพระราชพิธีด้วย


 

ข้อมูลและภาพ : Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย, matichon.co.th, เรารักราชวงศ์จักรี “We love Chakri Dynasty”

 

The post ในหลวง ร.10 ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวง ร.9 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ชาวไทยเชื้อสายจีนสุดปลื้มใจ “ในหลวง-พระราชินี”เสด็จฯเยาวราช

$
0
0

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562 เวลา 17.35 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวไทยเชื้อสายจีน ณ ถนนเยาวราช

ในการนี้ ทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์” ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของบูรพกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนได้อาศัยใต้ร่มพระบารมีบนแผ่นดินสยาม

อีกทั้ง ทรงสักการะพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ วัดมังกรกมลาวาส

ทั้งนี้ บรรยากาศของตลอดเส้นทางพระราชดำเนินเต็มไปด้วยพสกนิกรที่สวมใส่เสื้อเหลืองอย่างพร้อมเพรียงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

โดย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงแย้มพระสรวลและทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกร สร้างความปลื้มใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องตลอดเส้นทางพระราชดำเนิน

 


 

ข้อมูลและภาพ : Thairoyalfamily, mgronline.com

The post ชาวไทยเชื้อสายจีนสุดปลื้มใจ “ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯเยาวราช appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

Viewing all 1295 articles
Browse latest View live