Quantcast
Channel: Royal Update – Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach
Viewing all 1295 articles
Browse latest View live

‘ในหลวง’โปรดเกล้าฯให้ ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’เป็นผู้แทนพระองค์ตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสา

$
0
0

วันนี้ (24 กันยายน 2562) เวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เป็นผู้แทนพระองค์ไปตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสา ที่คลองบ้านใหม่ ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมคณะกรรมการฯและประชาชนจิตอาสา ให้การต้อนรับ

ในการนี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินทางไปยังศาลาเอนกประสงค์ชุมชนเปรมประชากร เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการเรื่องการกําจัดวัชพืชในพื้นที่ และการใช้จุลินทรีย์ชีวภาพบําบัดน้ำเสีย โดยผู้อํานวยการศูนย์อํานวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เป็นผู้บรรยาย จากนั้น เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ลงเรือท้องแบนของกรมป้องกันภัย เพื่อร่วมจัดเก็บผักตบชวาในคลองเปรมประชากรและคลองบ้านใหม่ โดยล่องเรือไปทางทิศเหนือ ชมการสาธิตการทํางานของเรือกําจัดผักตบชวาของกรมชลประทาน และสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รวมถึงการขนส่งวัชพืชจากเรือเก็บผักตบชวาขึ้นบนฝั่ง

จากนั้น ล่องเรือลงมาทางทิศใต้ของคลองบ้านใหม่ ดูการสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก และดูการวางแพลูกบวบเพื่อป้องกันขยะเข้าใต้ถุนบ้านของราษฎร เสร็จแล้วขึ้นจากเรือ เพื่อเยี่ยมชมโรงครัวพระราชทาน และการรับประทานอาหารของจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.


ข้อมูลและภาพ : โบราณนานมา, mgronline.com

The post ‘ในหลวง’ โปรดเกล้าฯให้ ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ เป็นผู้แทนพระองค์ตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสา appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.


‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เรือนจำบางขวาง

$
0
0

เมื่อวานนี้ (24 กันยายน 2562) หลังจากการตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสา ที่คลองบ้านใหม่ ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ของเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ในเวลา 14.50 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี รองประธานที่ปรึกษา โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี ด้วยหัวใจ เป็นผู้แทนพระองค์ไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ต้องขัง ในโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี ด้วยหัวใจ ณ เรือนจำบางขวาง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

ในการนี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินทางไปยังเรือนจำกลางบางขวาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนนทบุรี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรืองจำกลางบางขวาง พร้อมคณะกรรมการฯ เจ้าหน้าที่เรือนจำบางขวาง รอต้อนรับเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เข้าไปยังแดน 4

โดย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ตรวจเยี่ยมภายในแดน 4 และจัดเลี้ยงอาหารพระราชทานให้แก่ผู้ต้องขัง จำนวน 5,500 คน โดยมอบอาหารพระราชทานให้แก่ผู้แทนผู้ต้องขัง จำนวน 10 คน อีกทั้งได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใย และพระราชทานกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ต้องขัง จากนั้นไปตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ณ ห้องสมุดพร้อมปัญญา

จากนั้น ตรวจเยี่ยมภายในแดน 14 เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมการพัฒนาพฤติกรรมนิสัยผู้ต้องขัง ประกอบด้วย โครงการปั้นดินให้เป็นบุญ โครงการอาชีวศึกษา โครงการจิตรกรรม ต่อด้วยตรวจเยี่ยมภายในแดน 12 สถานพยาบาลและที่พักผู้ป่วยของสถานพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง


 

ข้อมูลและภาพ : bangkokbiznews.com

The post ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เรือนจำบางขวาง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’เสด็จฯเยือนจีน ทรงรับเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์

$
0
0

จากคำสั่งอย่างเป็นทางการและเป็นลายลักษณ์อักษรจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เกี่ยวกับการที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ‘เครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์’ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเชิดชูเกียรติระดับชาติให้แก่บุคคลสำคัญระดับโลก ซึ่งมีคุณูปการสำคัญต่อการสร้างและพัฒนาสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและเผยแพร่จิตวิญญาณแห่งชนชาติจีนและยุคสมัยปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2562 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ จากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสหลังจากทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์เป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน โดยทรงยกบทกวีจีนขึ้นมากล่าวถึงความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศ และในตอนท้ายทรงอวยพรสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นภาษาจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ใจความดังต่อไปนี้

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลื้มปิติต่อเหรียญรางวัลมิตรภาพที่รัฐบาลจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย อีกทั้งทรงรู้สึกตื่นเต้นไปกับพิธีประกาศรางวัลที่ประเทศจีนด้วย ซึ่งครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญของพระองค์

“ที่ผ่านมา 70 ปี คนจีนและรัฐบาลจีนได้พัฒนาประเทศ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย ทั้งคนจีนและผู้นำจะต้องอดทน อดกลั้น ขยันขันแข็ง ใฝ่รู้ จึงเจริญได้ทุกวันนี้”

อีกทั้งทรงแสดงความยินดีต่อประเทศจีนและชาวจีนในโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพระราชดำรัสว่า “ขอให้สาธารณรัฐประชาชนจีนก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ และขอให้ประชาชนชาวจีนสมปรารถนา มีความสุขทั้งกายใจ มั่งคั่ง และมั่นคง”

นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชดำรัสว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีนในด้านการศึกษานั้น ช่วยมอบโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ประเทศไทยด้วย “ตอนที่มีโอกาสมาศึกษาภาษาและสังคมจีนเป็นเวลาเดือนหนึ่ง ได้คิดถึงแนวทางที่จะส่งนักเรียนนักศึกษามาเรียนที่จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอื่นๆ ที่ไม่มีผู้อื่นเคยมาเรียนที่จีน”

“หลายคนได้กลับไทย ทำงานเป็นประโยชน์ หรือไปเรียนต่อประเทศอื่น ส่งนักวิจัยมาทำงานร่วมกับนักวิจัยจีน ที่เราไม่มีโอกาสแน่นอน ถ้าไม่ได้ร่วมโครงการกับจีน จีนได้ค้นคว้าเรื่องเหล่านี้มานาน เป็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องมาในระยะเวลา 70 ปีนี้” 


ข้อมูลและภาพ : โบราณนานมา ,เรารัก กรมสมเด็จพระเทพรัตน ฯ : Our Beloved Princess Maha Chakri Sirindhorn , Web_xinhuanet, China Xinhua News

The post ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ เสด็จฯเยือนจีน ทรงรับเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ‘พลโทหญิง’เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา

$
0
0

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานพระยศ ความว่า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระยศ

พลตรีหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็น พลโทหญิง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 มาตรา 10 มาตรา 13 และมาตรา 15 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 มาตรา 4 และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช 2479

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พุทธศักราช 2562

ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน


 

ภาพ : เรารัก สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา : Our Beloved HRH Princess Bajrakitiyabha

The post ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ‘พลโทหญิง’ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

งดงามตราตรึง 10 พระบรมสาทิสลักษณ์ ผลงานจรดพู่กันของ 10 ศิลปินระดับชาติ

$
0
0

นับว่าเป็นครั้งแรกของการรวมเหล่าศิลปินระดับประเทศที่มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษ ในการวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ของสองมหาราชที่ทรงเป็นดังศูนย์รวมจิตใจของคนไทยท้ังชาติ ”พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๕  และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  บรมนาถบพิตร  รัชกาลที่ ๙  เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ  ทั้งสองพระองค์ที่ยังคงสถิตอยู่ในใจของปวงชนชาวไทยตราบนิรันดร์

ศิลปิน : ศาสตราจารย์ปรีชา เถาทอง
ชื่อภาพ : จำแขนขาด สู่ถิ่นกาขาว ชาววิไล
เทคนิค : สีอะะคริลิกบนผ้าใบ

“ผมวาดภาพนี้ในคืน ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐  ก่อนได้รับการติดต่อจากนิตยสารแพรว  ผมเกิดความคิดว่าเดือนตุลาคม ถือได้ว่าเป็นเดือนมหาวิปโยค เพราะพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ที่คนไทยรักและเทิดทูนเสด็จสวรรคตในเดือนนี้  จึงเป็นเหตุปัจจัยทำให้ผมวาดภาพนี้ขึ้นมา  จะเห็นได้ว่าพระพักตร์ของทั้งสองพระองค์ชัดเจน  แต่พระวรกายดูเลือนราง สื่อถึงพระองค์ท่านไม่ได้อยู่พวกเราแล้ว  มีเพียงภาพลักษณ์พิมพ์ใจที่หลงเหลืออยู่”

ศิลปิน : อาจารย์ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ
ชื่อภาพ : กลางคืนทรงเป็นพระจันทร์ กลางวันทรงเป็นพระอาทิตย์
เทคนิค : สีอะคริลิกทองคำเปลวบนผ้าใบลินิน

“ด้วยความระลึกถึงทั้งสองพระองค์ที่ทรรงอุทิศิ ทั้งพระชนม์ชีพให้ประเทศไทย จึงตั้งใจสื่อพระพักตร์ออกมาในรูปแบบของเหรียญกษาปณ์  แสดงถึงความยิ่งใหญ่  เคารพและเทิดทูน ผมอยากให้คนไทยได้ทราบว่าทั้งสองพระองค์ทรงตั้งพระราชปณิธานเพื่อแผ่นดินไทยไว้อย่างไร แล้วทรงทำตามพระราชปณิธานนั้นจริง ๆ”

ศิลปิน : อาจารย์ธีระวัฒน์ คะนะมะ
ชื่อผลงาน : พระคู่ฟ้า คู่แผ่นดิน
เทคนิค : สีอะคริลิกบนกระดาษ

“ผมได้รับเกียรติจากนิตยสารแพรว วาดภาพเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน  โดย เขียนรูปทั้งสองพระองค์ซ้อนกันอยู่ เพื่อสื่อให้รู้ว่า พระองค์ยังอยู่คงอยู่ในใจคนไทยเสมอ แม้เสด็จสวรรคตแล้วก็ตาม  โดยล้อมรอบทั้งสองพระองค์ด้วยดวงประทีป  แม้จะริบหรี่ลงแต่ก็ยังคงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา  ด้านหลังปล่อยเป็นพื้นขาวให้ดูสะอาด และตั้งใจให้สีที่วาดพระพักตร์ของทั้งสองพระองค์เป็นสีขาวดำ  สีซีเปีย  เพื่อให้ดูว่าเป็นภาพเก่ารางเลือน  แต่ยังคงชัดเจนและแจ่มใสในใจของพวกเราคนไทยเสมอ”

 

ศิลปิน : อาจารย์สุรเดช แก้วท่าไม้
ชื่อภาพ : ทวิปิยะองค์
เทคนิค : สีอะคริลิกและทองบนผ้าใบ

“ผมตั้งใจเขียนพระบรมสาทิสลักษณ์ทั้งสองพระองค์อยู่ในภาพเดียว  คิดด้วยความเป็นเหตุเป็นผลในฐานะพสกนิกรของพระองค์ว่า  อยากให้หลานอยู่กับปู่ที่รัก และเป็นหลานรักของปู่  จึงเขียนภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขณะทรงพระเยาว์  ส่วนพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๕  ผมเลือกพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงฉายพระรูปกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  โดยเปลี่ยนมาเป็นพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๙ แทน  ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ขณะที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงกอดพระองค์อยู่ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๙ ทรงถือเรือจำลองแทนความเจริญรุ่งเรือง และได้มีการปรับเปลี่ยนแสงเงาให้มีความกลมกลืนมากยิ่งขึ้น

ศิลปิน : อาจารย์ธนฤทธิ์ ทิพย์วารี
ชื่อภาพ : ด้วยสายพระเนตรที่ทอดยาวไปสู่ลูกหลานไทย
เทคนิค : สีน้ำมันบนผ้าลินิน

“ผมวาดภาพนี้ในฐานะพสกนิกรไทยคนหนึ่งที่รู้สึกต่อทั้งสองพระองค์ ด้วยสองพระพักตร์ที่เชื่อมโยงไปในทางเดียวกัน  และด้วยสายพระเนตรทอดไกลออกไปยังสิ่งเดียวกันในความหมายของผมคือ  ทรงคิดถึงและทรงห่วงใยในความอยู่ดีกินดีของพสกนิกรของพระองค์เสมอ  ซึ่งสิ่งที่พระองค์ท่านพระราชทานแก่พวกเราคือ  เสรีภาพ  ความพอเพียง  ความสามัคคี ให้รู้จักใช้ความดีในการดำรงชีวิต”

 

 

 

 

The post งดงามตราตรึง 10 พระบรมสาทิสลักษณ์ ผลงานจรดพู่กันของ 10 ศิลปินระดับชาติ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

วีรสตรีคู่พระบารมี สมเด็จพระบรมรชินีนาถ 2 รัชกาล

$
0
0

วีรสตรีคู่พระบารมี สมเด็จพระบรมรชินีนาถ 2 รัชกาล …อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ไทยที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกาล แม้จะเป็นคนละรัชสมัยของการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

แต่ก็มีช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง นั่นก็คือ การสถาปนาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ  โดยเริ่มขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๕  และอีก ครั้งในรัชกาล ๙ โดยสาระสำคัญนั้นหลายๆ เรื่องได้ถูกถ่ายทอดลงในนิตยสารแพรวฉบับพิเศษ “ตุลามหาราช” ไว้ว่า

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉายพระรูปร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  พระอรรคราชเทวี  และพระราชโอรส  ณ จังหวัดกาญจนบุรี  ภาพ : หนังสือเทิดพระเกียรติ ๑๕๐ ปี  สมเด็จพระปิยมหาราช

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งพระมเหสีชั้นเจ้านายชั้นสูง  คือ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  พระอรรคราชเทวี  ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ถือได้ว่าพระองค์ทรงให้เกียรติและยกย่องในความสามารถของสตรีอย่างยิ่ง ดังพระราชดำรัสในการโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอรรคราชเทวี เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์  คราวเสด็จประพาสยุโรป  เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ (นับศกอย่างเก่า)

หลังจากเสร็จสิ้นพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรป ช่วงระหว่างวันที่ ๗ เมษายน – ๑๖  ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๐  และเสด็จนิวัต พระนครแล้วมีพระราชดำริว่า  สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอรรคราชเทวี  ทรงปฏิบัติราชการแผ่นดินได้เรียบร้อยเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่งนัก สรรพกิจทั้งหลายที่ทรงปฏิบัติมาล้วนแต่เป็นเกียรติคุณแก่ประเทศสยาม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเฉลิมพระนามาภิไธยจากสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี  พระอรรคราชเทวี  เป็น “สมเด็จพระนางเจ้า เสาวภาผ่องศรี  พระบรมราชินีนาถ”  เป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (ภายหลังทรงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทรา  บรมราชินีนาถ  พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ ๖)

ต่อมาประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ได้จารึกถึงเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระบรมราชินีนาถเป็นพระองค์ที่สอง  เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  บรมนาถบพิตร  มีพระราชดำริที่จะทรงพระผนวชเป็น พระภิกษุในพระพุทธศาสนาในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๙  โดยในวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙  มีพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  บรมนาถบพิตร ทรงลาสิกขาแล้ว  ต่อมาในวันที่๕ ธันวาคม ปีเดียวกัน  พระองค์มีพระบรมราชโองการประกาศเฉลิมพระอภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี  ตามที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา  เล่ม ๗๓  ตอนที่ ๑๐๓ ลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙  ความตอนหนึ่งว่า

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า  ตามราชประเพณีเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี ได้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์  เคยมีประกาศให้ออกพระนามว่า  สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ  และทรงพระราชดำริเห็นว่า  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินี ได้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในระหว่างที่ทรงผนวช  และได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจแทนพระองค์ด้วยพระปรีชาสามารถ  สนองพระราชประสงค์เป็นที่เรียบร้อย  เป็นการสมควรที่จะได้เฉลิมพระอภิไธยให้เชิดชูพระเกียรติยศยิ่งขึ้น “จึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เฉลิมพระอภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ว่า  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”

อ่านเรื่องราวพิเศษของ 2 มหาราชผู้เป็นที่รักยิ่งของชาวไทยฉบับสมบูรณ์ได้ในนิตยสารแพรวฉบับพิเศษ “ตุลามหาราช” สามารถหาซื้อได้ที่ ร้านหนังสือนายอินทร์ ทั่วประเทศ

 

 

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่นี่

งดงามตราตรึง พระบรมสาทิสลักษณ์ 2 มหาราช ผลงานจรดพู่กันของ 10 ศิลปินระดับชาติ

เปิดผนึก 3 บันทึกถึงฝรั่ง คนไทยรักในหลวงรัชกาลที่๙ ด้วยหัวใจ และไม่ได้ถูกล้างสมอง

5 เหตุการณ์เดือนตุลาฯ แห่งความทรงจำ ในหลวงรัชกาลที่๙ มหาราชแห่งแผ่นดิน

เปิดเรื่องราว “เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า จากในหลวงรัชกาลที่ ๕

 

The post วีรสตรีคู่พระบารมี สมเด็จพระบรมรชินีนาถ 2 รัชกาล appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประทานเลี้ยงผู้สูงอายุ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ

$
0
0

วันนี้ 8 ตุลาคม 2562 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระธิดาพระองค์โตในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งทรงเจริญพระชันษาครบ 37 ปี

ในการนี้ เวลา 12.30 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ จึงเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ไปยังศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทานอาหารกลางวันให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งพักอยู่ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์

โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความประทับใจ จากพระจริยวัตรอันอ่อนน้อมของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ที่ทรงมีต่อกลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งความปลาบปลื้มใจของกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับโอกาสดีๆ ในวันแห่งความมงคลนี้


 

ข้อมูลและภาพ : กองทุนพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์

The post พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประทานเลี้ยงผู้สูงอายุ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ชื่นชม “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี”ทรงมีพระดำรัสภาษาฝรั่งเศส ขณะเสด็จเจริญสัมพันธไมตรี

$
0
0

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2562 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรุงปารีส เพื่อทรงเป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส (333 Years: Siamese Envoy to France) โดยมีนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส นาย Nicolas HUZELOT รักษาการผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุแห่งชาติ นาย Thiery MATHOU อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส เอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน หัวหน้าสำนักงานหน่วยงานทีมประเทศไทยประจำกรุงปารีส และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยและฝรั่งเศส เฝ้ารับเสด็จ

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำรัสเป็นภาษาฝรั่งเศส ใจความว่า ทรงยินดีที่ประเทศไทยและฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ฉันมิตรมายาวนานกว่า 3 ศตวรรษ โดยการเสด็จเยี่ยมชมหอจดหมายเหตุแห่งชาติฝรั่งเศสในครั้งนี้ ทรงได้ทอดพระเนตรเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศซึ่งมีคุณค่ายิ่ง และทรงกล่าวถึงพระประวัติส่วนพระองค์ว่า ทรงมีความผูกพันกับประเทศฝรั่งเศส โดยทรงมีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นต้นแบบและแรงบันดาลพระทัยในการเสด็จมาทรงศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นเมืองแห่งแรงบันดาลใจทางศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก อีกทั้งทรงเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและฝรั่งเศสจะเจริญก้าวหน้าต่อไปในทุกมิติ โดยขอให้ทุกคนร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ความสัมพันธ์มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไป

ทั้งนี้สำหรับงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส (333 Years: Siamese Envoy to France) จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของการทูตของไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยออกพระวิสุทสุนทร หรือโกษาปาน ได้นำคณะราชทูตสยามไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส และได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2229 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส และปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งในหลายมิติ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี


 

ข้อมูลและภาพ : Royal Thai Embassy – Paris, France – สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส

The post ชื่นชม “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” ทรงมีพระดำรัสภาษาฝรั่งเศส ขณะเสด็จเจริญสัมพันธไมตรี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.


5 เหตุการณ์เดือนตุลาฯ แห่งความทรงจำ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มหาราชแห่งแผ่นดิน

$
0
0

5 เหตุการณ์เดือนตุลาฯ แห่งความทรงจำ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มหาราชแห่งแผ่นดิน… นับตั้งแต่เดือนตุลาคมเมื่อปี พ.ศ. 2559 ความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติก็ไม่เหมือนเดิม และคงเป็นเดือนแห่งความทรงจำที่ทุกคนระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งอย่าง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

อีกทั้งจะเป็นความบังเอิญหรือชะตาลิขิตก็คงไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะนับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงดำรงสถานะพระมหากษัตริย์แห่งสยามประเทศ ก็มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับพระองค์ในเดือนตุลาคม ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ถูกจารึกไว้ในพระราชประวัติของพระองค์ และประวัติศาสตร์ของไทยด้วย

 

3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จประทับยังต่างประเทศ ขณะที่พระองค์ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเฟียส ทอปอลิโน จากเจนีวาไปยังเมืองโลซานน์ ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกกระเด็นเข้าพระเนตรขวา พระอาการสาหัส หลังการถวายการรักษา พระองค์มีพระอาการแทรกซ้อนบริเวณพระเนตรขวา แพทย์จึงถวายการรักษาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง หากแต่พระอาการยังคงไม่ดีขึ้น กระทั่งวินิจฉัยแล้วว่าพระองค์ไม่สามารถทอดพระเนตรผ่านทางพระเนตรขวาของพระองค์เองได้ต่อไปแล้ว จึงได้ถวายการแนะนำให้พระองค์ทรงพระเนตรปลอมในที่สุด

 

 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ทรงผนวช

หลังจากเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงออกผนวชเป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงได้รับฉายาว่า ภูมิพโลภิกขุ หลังจากนั้นพระองค์เสด็จฯไปประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างที่ผนวชนั้น พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

โดยระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศพระภิกษุ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกิจ เช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เช่น เสด็จลงพระอุโบสถทรงทำวัตรเช้า–เย็น ตลอดจนทรงสดับพระธรรมและพระวินัย นอกจากนี้ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพิเศษอื่นๆ อีกด้วย

 

14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ทรงระงับเหตุความรุนแรงทางการเมือง

ในตลอดรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองขึ้นอยู่หลายครั้ง ซึ่งแม้พระองค์ทรงดำรงสถานะของการเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองก็ตาม แต่เมื่อใดที่ความรุนแรงเกิดขึ้นจนทำให้ประชาชนต้องบาดเจ็บ พระองค์จะทรงยื่นพระหัตถ์เข้ามาช่วยบรรเทาและระงับให้เหตุการณ์สงบลง อย่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ก็ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งทางสถานีโทรทัศน์ว่า

“วันนี้เป็นวันมหาวิปโยคที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลา 7-8 วันที่ผ่านมาได้มีการเรียกร้องและเจรจากันจนกระทั่งนักศึกษาและรัฐบาลทําความตกลงกันได้ แต่แล้วการขว้างระเบิดขวดและยิงแก๊สน้ำตาขึ้น ทําให้เกิดการปะทะกันและมีคนได้รับบาดเจ็บหลายคน ความรุนแรงได้ทวีขึ้นทั้งพระนคร ถึงขั้นจลาจลและยังไม่สิ้นสุด มีคนไทยด้วยกันต้องเสียชีวิตนับร้อย ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนจงระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการตั้งสติยับยั้ง เพื่อให้ชาติบ้านเมืองคืนสู่สภาพปกติเร็วที่สุด

“อนึ่ง เพื่อขจัดเหตุร้ายนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ขอลาออกจากตําแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อค่ำวันนี้ ข้าพเจ้าจึงแต่งตั้งให้นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันสนับสนุน เพื่อคณะรัฐบาลใหม่สามารถบริหารงานแผ่นดินได้โดยมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม และแก้ไขสถานการณ์ให้คืนสู่สภาพเรียบร้อยได้โดยเร็ว ยังความสุข ความเจริญรุ่งเรืองให้บังเกิดแก่ประเทศและประชาชนชาวไทยโดยทั่วกัน”
นับว่าการระงับเหตุการณ์ครั้งนั้นอาศัยพระบุญญาธิการของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยแท้ มิฉะนั้นแล้วเหตุการณ์คงลุกลามมากขึ้น เพราะการต่อสู้ได้ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว มีการทําลายสถานที่ราชการและทรัพย์สินต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชนหลายแห่ง

13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เสด็จสวรรคต

ภาพจากเพจคุณ “ณัชร สยามวาลา Nash Siamwalla, PhD”
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นวันที่คนไทยทั้งชาติน้ำตาท่วมแผ่นดิน เมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ ซึ่งในห้วงเวลานั้นก็เกิดเหตุอัศจรรย์ท้องฟ้าเปิดเหนือโรงพยาบาลศิริราช และในขณะเดียวกันในช่วงค่ำไปจนถึงเช้ามืดของวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ก็เกิดเหตุอัศจรรย์บนฟากฟ้าที่เรียกว่า “หมอกธุมเกตุ” ทั่วกรุงเทพมหานคร ซึ่งเหตุการณ์อัศจรรย์เช่นนี้เคยมีบันทึกไว้ว่าเคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต

26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

เป็นอีกหนึ่งวันที่คนไทยทุกคนอยากให้มาถึงช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ สำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งนับตั้งแต่พระองค์เสด็จสวรรคต ทางกรมศิลปากรและหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายในการจัดสร้างพระเมรุมาศก็เร่งทำงานกันอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงมีความสมบูรณ์และสมพระเกียรติมากที่สุด โดยพระเมรุมาศที่จัดสร้างขึ้นนี้สูงเทียบเท่าตึก 17 ชั้น ทั้งยังมีรายละเอียดอย่างมาก (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับพระเมรุมาศในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ที่นี่) นับว่าเป็นพระราชพิธีสำคัญที่คนไทยทุกคนได้ร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย

The post 5 เหตุการณ์เดือนตุลาฯ แห่งความทรงจำ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มหาราชแห่งแผ่นดิน appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ประวัติศาสตร์ 13 ตุลาฯ บันทึกความทรงจำในวันแผ่นดินร่ำไห้

$
0
0

ประวัติศาสตร์ 13 ตุลาฯ บันทึกความทรงจำในวันแผ่นดินร่ำไห้…ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ในวันที่ 13 ตุลาคม สำหรับพสกนิกรชาวไทย ก็ยังคงเป็นวันที่จดจำกันได้เสมอ เพราะเป็นวันแห่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้บ้านเมืองในขณะนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกทั่วทั้งแผ่นดิน

๑๓ ตุลาคม  พ.ศ.๒๕๕๙ วันที่เข็มนาฬิกาหยุดเดิน

นับตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษา พระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช  หลังจากนั้น ๑ วัน   สำนักพระราชวังก็ออกแถลงการณ์ฉบับที่ ๑ ระบุว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรอท (ไข้) สูง ๓๘.๒ องศาเซลเซียส  ผลการตรวจพระโลหิตแสดงว่ามีภาวะติดเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงในความดันพระโลหิต และอัตราการเต้นของพระหทัยเร็วขึ้น คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช  นับจากวันนั้นพระอาการมีทั้งดีขึ้นและแย่ลงสลับกันตลอดระยะเวลาที่ประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช  กระทั่งวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ ๓๘ ความว่า

“วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙  ความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น  ร่วมกับภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นอีก  ผลของการถวายตรวจพระโลหิตบ่งชี้ว่ามีภาวะการติดเชื้อ  และการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ  คณะแพทย์ฯได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ  และแก้ไขภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรด  ตลอดจนถวายพระโอสถควบคุมความดันพระโลหิตเพิ่มขึ้น  พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator)  และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT)  พระอาการประชวรโดยรวม ยังไม่คงที่ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯได้เฝ้าติดตามพระอาการ และถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด”

นับจากที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์นี้  พสกนิกรไทยจำนวนมาก เดินทางมาที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดลุยเดชวิกรม พระบรมราชชนก  ณ โรงพยาบาลศิริราช  หัวใจทุกดวงไปรวมกันอยู่ที่ชั้น ๑๖ อาคารเฉลิมพระเกียรติ  พร้อมกับเสียงสวดมนต์บทโพชฌังคปริตร  เพื่อภาวนาให้ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงหายจากพระอาการประชวร กระทั่งเวลาล่วงมาถึง ๑๔.๒๐ น.  ของวันที่ ๑๓ ตุลาคม  สำนักพระราชวังประกาศงดลงนามถวายพระพร ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง  วินาทีนั้นหัวใจของคนไทยเหมือนหล่นจากที่สูง  หลายคนรีบออกจากบ้านตรงไปยังโรงพยาบาลศิริราช  เสียงสวดมนต์ที่ลานพระราชานุสาวรีย์ฯ ดังยิ่งกว่าคราวไหน ๆ  แต่แล้วในเวลา ๑๘.๔๕ น.  สำนักพระราชวังก็ออกประกาศที่ไม่มีใครอยากได้ยิน

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร  สยามินทราธิราช  บรมนาถบพิตร  เสดจ็พระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริร าช  ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ ๓ ตุลาคม  พุทธศักราช ๒๕๕๗  ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น  “แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ  แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่  ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ  ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม  พุทธศักราช ๒๕๕๙  เวลา ๑๕ นาฬิกา ๕๒ นาที  เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช  ด้วยพระอาการสงบ  สิริพระชนมพรรษา ปีที่ ๘๙  ทรงครองราชสมบัติได้ ๗๐ ปี”

สิ้นเสียงประกาศจากสำนักพระราชวัง  ไม่มีคำใดอธิบายความรู้สึกของคนไทยได้ ที่โรงพยาบาลศิริราชเสียงสวดมนต์ที่ดังข้ามคืนแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร่ำไห้แทบขาดใจ  บางคนเป็นลมล้มพับไปกับพื้น  อีกหลายคนทรุดตัวกอดกันร้องไห้  ทุกคนยังหวังว่า  ข่าวที่เพิ่งได้ยินได้ฟังไม่ใช่เรื่องจริง  แต่ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้น  พ่อหลวงทรงจากพวกเราไปแล้วตราบนิรันดร์

 

 

อ่านเรื่องราวพิเศษของมหาราชผู้เป็นที่รักยิ่งของชาวไทยฉบับสมบูรณ์ได้ในนิตยสารแพรวฉบับพิเศษ “ตุลามหาราช” สามารถหาซื้อได้ที่ ร้านหนังสือนายอินทร์ ทั่วประเทศ

 

เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ

วีรสตรีคู่พระบารมี สมเด็จพระบรมรชินีนาถ 2 รัชกาล

งดงามตราตรึง พระบรมสาทิสลักษณ์ 2 มหาราช ผลงานจรดพู่กันของ 10 ศิลปินระดับชาติ

เปิดผนึก 3 บันทึกถึงฝรั่ง คนไทยรักในหลวงรัชกาลที่๙ ด้วยหัวใจ และไม่ได้ถูกล้างสมอง

5 เหตุการณ์เดือนตุลาฯ แห่งความทรงจำ ในหลวงรัชกาลที่๙ มหาราชแห่งแผ่นดิน

เปิดเรื่องราว “เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า จากในหลวงรัชกาลที่ ๕

 

The post ประวัติศาสตร์ 13 ตุลาฯ บันทึกความทรงจำในวันแผ่นดินร่ำไห้ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ในหลวง และพระบรมวงศ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันคล้ายวันสวรรคต ในหลวง ร.9

$
0
0

เมื่อวานนี้ (13 ตุลาคม 2562) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการนี้ เวลา 17.20 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ รวมถึงท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ซึ่งเข้าร่วมพระราชพิธีสำคัญนี้ด้วย


 

ข้อมูลและภาพ : chin_meechai, Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย, Thai Royal Office หน่วยราชการในพระองค์, Matichon

The post ในหลวง และพระบรมวงศ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันคล้ายวันสวรรคต ในหลวง ร.9 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ เป็นประธานที่ปรึกษาฯ จัดงานอุ่นไอรักฯ

$
0
0

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง แต่งตั้งประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ความว่า

ตามที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ณ พระลานพระราชวังดุสิต โดยมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานความสุข ให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน อีกทั้งเป็นส่วนสนองพระบรมราโชบายให้ประชาชนได้รับความรู้ ความเข้าใจ จนบังเกิดความตระหนักซาบซึ้งในศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีแห่งความเป็นไทย ในรูปแบบสังคมพหุวัฒนธรรม เสริมสร้างความผูกพันใกล้ชิดระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ กับอาณาราษฎร อันจะอำนวยสัมฤทธิผลเป็นความวัฒนาสถาวรของประเทศชาติสืบไป จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ตามคำสั่งหน่วยราชการในพระองค์ 904 ที่ 74/2562 ลงวันที่ 24 กันยายน 2562 ไปแล้วนั้น

ในการนี้ ทรงพระราชดำริว่า เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ได้ปฏิบัติหน้าที่บริหาร การจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ด้วยความวิริยะอุตสาหะและทุ่มเท ในการกำหนดรูปแบบ ดำเนินการ และกำกับดูแลให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ ส่งผลให้งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เป็นที่นิยมชมชอบของมหาชนเป็นอันมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว

อำนาจหน้าที่

1. ให้คำปรึกษาแนะนำ ตลอดจนการช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เป็นไปตามพระบรมราโชบาย และสมพระเกียรติ
2. กำกับดูแลกิจกรรมการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมอื่นๆ ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
8 ตุลาคม 2562


 

The post โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ เป็นประธานที่ปรึกษาฯ จัดงานอุ่นไอรักฯ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงออกแบบHolistic Heritage SIRIVANNAVARI x Whoo2019

$
0
0

ใครที่เป็นสายสกินแคร์ตัวยง เน้นสกินแคร์ราคาแพงแต่คุ้มบำรุงดี โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี ย่อมต้องรู้จักแบรนด์ The history of Whoo อย่างแน่นอน เพราะแบรนด์นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นตำหรับความงามลับจากราชสำนัก และด้วยวิทยาการสมัยใหม่ที่ผสมผสานกับตำหรับยาลับสมุนไพรตะวันออกของราชวงศ์ จึงเป็นแบรนด์ระดับโลกที่สร้างขึ้นเพื่อจักรพรรดินีทุกคนในยุคนี้อย่างแท้จริง

และเมื่อไม่นานมานี้ ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Bichup Self Generating Anti-Aging Essence/Bichup Jasaeng Essence Special Edition 2019 เอสเซนส์เพื่อฟื้นบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมลับโชจาฮาบิดัน และ กงจิบิดัน ซึ่งเป็นสูตรลับตำรายาจากราชสำนักโบราณกว่าหลายร้อยปีที่ใช้สำหรับจักรพรรดินีและราชวงศ์เท่านั้น มีคุณสมบัติเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและต่อต้านริ้วรอย ให้เจิดจรัสราวกับจักรพรรดินี

ซึ่งบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งราชวงศ์เกาหลีตั้งแต่ประตูทางเข้าที่เนรมิตมาในรูปแบบของประตูพระราชวังเกาหลีและถูกสะกดสายตาด้วนิทรรศการที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้จากในห้องบรรทมของจักรพรรดินี ไม่ว่าจะเป็นฉลองพระองค์ของจักรพรรดินีที่ใช้ในราชพิธีตอนพิธีอภิเษกสมรส กล่องใส่ของ ถุงผ้าปักลายอย่างประณีต ตลอดจนเครื่องประดับต่างๆ อันงดงามที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงขวด Bichup Jasaeng Essence Special Edition ตั้งแต่รุ่นแรกที่ออกมาเมื่อปี 2010 จนถึงรุ่นปัจจุบันในปี 2019 รวมถึงผลงานศิลปะ Holistic Heritage SIRIVANNAVARI x Whoo 2019 ที่ความสนใจจากแขกผู้มาร่วมงานอย่างมาก

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบและทรงใช้ช่างฝีมือจำนวนมากเพื่อรังสรรค์ผลงานศิลปะ Holistic Heritage SIRIVANNAVARI x Whoo 2019 

โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงออกแบบและทรงใช้ช่างฝีมือจำนวนมากเพื่อรังสรรค์ผลงานศิลปะ Holistic Heritage SIRIVANNAVARI x Whoo 2019 ซึ่งทรงได้แรงบันดาลใจจากนกยูงซึ่งเป็น Signature ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ผสมผสานกับปรัญชาของแบรนด์ The history of Whoo ที่ถอดแบบความงามในฉบับจักรพรรดินีมาสู่ผู้หญิงยุคใหม่ โดยถ่ายทอดความงามนี้ผ่านงานฝีมือปักผืนผ้าระดับโอต์กูตูร์ รวมไปถึงเทคนิคพิเศษในการปักดิ้นทองอันสุดปราณีตของไทยสมัยโบราณ ผสานกับเทคนิค The “luneville” ซึ่งเป็นเทคนิคการปักชั้นสูงแบบฉบับฝรั่งเศสในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้น ซึ่งใช้เวลากว่า 728 ชั่วโมง

Bichup Self Generating Anti-Aging Essence เป็นสินค้าขายดีของแบรนด์ ได้รับการออกแบบแพ็คเกจจิ้งสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้แรงบันดาลใจจาก “แดโจจอนฮอลแห่งพระราชวังชางด็อกกุง”หรือ ภาพเขียนในห้องบรรทมของจักรพรรดินี ซึ่งถือเป็นมรดกแห่งชาติลำดับที่ 816  โดยความพิเศษของปีนี้ทางแบรนด์ได้จัดแสดงผลงานศิลปะ มรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์จากพระราชวังในเกาหลีที่เผยให้เห็นเรื่องราวและสายสัมพันธ์อันเลอค่าระหว่างแบรนด์กับราชวงศ์เกาหลี ยกตัวอย่างเช่น จอกอึยสีน้ำเงินเข้ม 12 ชั้น หรือ ฉลองพระองค์ของจักรพรรดินีของราชอาณาจักรเกาหลีที่ใช้ในราชพิธีตอนพิธีอภิเษกสมรส หรือฉลองพระองค์ในพิธีการสำคัญระดับประเทศ แทซัมจักโนรีแก เครื่องประดับที่ใช้แขวนประดับไว้ที่เชือกของเสื้อหรือด้านบนสุดของกระโปรงชุดฮันบกซึ่งเป็นชุดประจำชาติเกาหลีของสตรี

และภายในงานเปิดตัว นักแสดงสาวสวย ศรีริต้า เจนเซ่น ยังได้เล่าว่า “ริต้าเป็นแฟนของแบรนด์นี้อยู่แล้ว เพราะนอกจากประสิทธิภาพในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเพื่อสาวเอเชียอย่างเราแล้ว เรื่องประวัติความเป็นมาเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ริต้าเชื่อมั่นในแบรนด์นี้ ซึ่งงานในครั้งนี้ทุกคนคงเห็นว่าของที่นำมาจัดแสดงแต่ละชิ้นไม่ได้เห็นกันง่ายๆ เพราะเป็นเสมือนมรดกของประเทศเลยทีเดียว สำหรับเอสเซนส์ส่วนตัวชอบมากเพราะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มแล้วมีความหนึบ แต่พอทาลงไปแล้วไม่รู้สึกถึงความเหนียวเหนอะหนะเลย แถมช่วยปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรงขึ้น พร้อมกับดูดซับสารพิษและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนใบหน้า คิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนต้องมีเลยค่ะ”


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

9 เมคอัพลุค “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” ทรงพระสิริโฉม ทอดพระเนตรปารีสแฟชั่นวีค

รวม “พระเกศา” ของ “พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ” เจ้าหญิงที่มีสไตล์ที่สุดในโลก

เมคอัพรันเวย์ SIRIVANNAVARI อีกหนึ่งดีเทลสำคัญ ที่ทำให้โชว์นี้สมบูรณ์ที่สุด

ช่างแต่งพระพักตร์คู่พระทัย “พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ” ผู้อยู่เบื้องหลังพระสิริโฉมอันงดงาม

ช็อตสุดซึ้ง “พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ” ทรงเซอร์ไพร้ส์วันเกิดแอร์โฮสเตสบนเที่ยวบินสู่ปารีส

“ฟูก ภูวษา” ผู้อยู่เบื้องหลังพระสิริโฉมของ “พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ” ในงานพระราชพิธีฯ

พระพักตร์หลากลุคของ “พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ” ทรงพระสิริโฉมยิ่งนัก

‘พระองค์หญิง’ ทรงออกแบบเมคอัพคอลเล็คชั่น SHISEIDO x SIRIVANNAVARI

พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ เจริญพระชันษา 32 ปี ทรงขึ้นแท่นเจ้าหญิงที่มีสไตล์ที่สุดในโลก

เด็กกว่านี้ก็น้องปีใหม่แล้วจ้า “แม่แอฟ” อัพลุคใหม่รัวๆ รอบนี้สั้นสไตล์ Beachy Wave

Tips แต่งหน้าโทนสีส้มพีชให้ซี๊ดขึ้น จากเมคอัพอาร์ติสต์คู่กาย “ไคลีย์ เจนเนอร์”

สวย รวย รักษ์โลก “อแมนด้า เฮิร์สต์” ใช้เครื่องสำอาง Sustainable Beauty เท่านั้น

สอยยังกำลังฮ็อต! แบรนด์เครื่องสำอางของ Victoria Beckham ขายออนไลน์แล้ว

 

 

 

The post เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงออกแบบHolistic Heritage SIRIVANNAVARI x Whoo2019 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคุกเข่าค่ะคุณป้า”ประทับใจ ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’เป็นกันเองกับราษฎร

$
0
0

เมื่อวันที่ 13-14 ตุลาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เป็นผู้แทนพระองค์ไปตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสา โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2562 เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินทางไปตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริเวณโดยรอบพระปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

และเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2562 เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนจิตอาสาในโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ที่มาร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทำความสะอาด เก็บขยะ และปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบพื้นที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ณ สำนักงานชลประทานที่ 12 (เขื่อนเจ้าพระยา) อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท

สำหรับบรรยากาศการตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมจิตอาสาของเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ทั้งสองวันเต็มไปด้วยความประทับใจ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ให้ความใกล้ชิดกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ทำให้เกิดภาพแห่งความอบอุ่นระหว่างเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี กับประชาชน โดยเฟซบุ๊กของคุณวาสนา นาน่วม Wassana Nanuam ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดังเล่าเหตุการณ์สุดประทับใจจากภาพนี้ว่า

เจ้าคุณพระสินินาฏฯ รีบทรุดตัวลงนั่งทันใด เมื่อคุณป้าคนนี้คุกเข่าให้ความเคารพ เมื่อพบเจออย่างไม่คาดคิดในระหว่างที่เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ออกเดินถนน เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนจิตอาสาฯ ที่ร่วมใจกันทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์ โดยรอบพระปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องคุกเข่าค่ะคุณป้า”

นอกจากนี้ยังมีภาพความเป็นกันเองกับประชาชนอีกมากมายของเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ซึ่งคุณวาสนา นาน่วม ยังเล่าอีกว่า เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินทางมาเยี่ยมประชาชนแบบไม่คาดคิดและไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดยเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เดินมาเงียบๆ ทักทาย พบปะ และให้กำลังใจประชาชน


 

ข้อมูลและภาพ : Wassana Nanuam, เรารักพระราชวงศ์ไทย Thai Royal Family, จิตอาสาภาคอีสาน, มติชนออนไลน์

The post “ไม่เป็นไร ไม่ต้องคุกเข่าค่ะคุณป้า” ประทับใจ ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ เป็นกันเองกับราษฎร appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

โปรดเกล้าฯ เลื่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

$
0
0

วันนี้ (17 ตุลาคม 2562) เวลา 16.00 น. ณ รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ว่า

นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีหลายคนได้หารือถึงการติดตามสถานการณ์มาเป็นระยะ และที่ประชุมได้มอบหมายให้ตนมาแถลงข่าวเพื่อชี้แจงว่า ตามที่มีการประกาศและออกข่าวเชิญชวนไปแล้วถึงการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 โดยที่ผ่านมามีการดำเนินการซ้อมย่อยจำนวน 10 ครั้ง และซ้อมใหญ่เสมือนจริง 1 ครั้งแล้วในวันนี้ (17 ตุลาคม 2562)

แต่หากมีพระราชพิธีตามกำหนดเวลาเดิม จะมีอุปสรรคในเรื่องของกระแสน้ำและสภาพดินฟ้าอากาศ เมื่อเป็นเช่นนั้น เพื่อความพร้อมและความสวยงาม ไม่กระทบต่อขบวนเรือ ไม่กระทบต่อการเสด็จพระราชดำเนิน และไม่กระทบต่อประชาชน รัฐบาลจึงได้นำความกราบบังคมทูลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยที่จะให้เลื่อนกำหนดเวลาของการมีขบวนเสด็จเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคออกไป

โดยบัดนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดลงมาแล้วว่าให้เป็นวันพฤหัสบดี ที่ 12 ธันวาคม 2562 เวลา 15.30 น. โดยริ้วขบวนจะเป็นเช่นเดิม คือเป็นขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ ใช้ขบวนเรือ 52 ลำในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร เพียงแต่ให้เลื่อนกำหนดวันออกไป ยืนยันว่ายังคงมีพระราชพิธีอยู่ และยิ่งใหญ่อย่างเดิม สวยงามเช่นเดิม แต่เพื่อความเหมาะสมเกี่ยวกับกระแสน้ำและสภาพดินฟ้าอากาศ

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวว่า ในวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ซึ่งจะมีการซ้อมใหญ่เสมือนจริงอีกครั้ง โดยในวันเดียวกันนั้น จะมีการประชุมใหญ่กันอีกครั้งที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. ซึ่งตนจะเป็นประธานการประชุมดังกล่าว และมีผู้แทนจากสำนักพระราชวัง กองทัพเรือ และรัฐบาล เข้าร่วมประชุม และพร้อมตอบคำถามในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหลังจบประชุม


 

ข้อมูลและภาพ : www.khaosod.co.th, พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช๒๕๖๒

The post โปรดเกล้าฯ เลื่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.


ในหลวง ร.10 โปรดเกล้าฯ ถอดฐานันดรศักดิ์ ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’

$
0
0

วันนี้ (21 ตุลาคม 2562) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง ให้ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารพ้นจากตำแหน่ง ถอดฐานันดรศักด์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา ใจความดังนี้

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารพ้นจากตำแหน่ง ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา เนื่องจากกระทำความผิดราชสวัสดิ์ และไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์

เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ประพฤติตนต่อต้านงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในการสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี หลังจากที่ได้ทรงประกอบพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยได้แสดงตนต่อต้านและกดดันทุกวิถีทาง เพื่อจะไม่ให้มี การสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ขึ้นทรงดำรงตำแหน่ง แต่จะให้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตนเองขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ตามที่ได้ตั้งความหวังไว้ แต่การณ์ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวัง หลังจากพระราชพิธีผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยความทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง จึงได้พยายามหาหนทาง ในการดำเนินการด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการสถาปนาตำแหน่งของตนเอง นอกจากนี้เจ้าคุณพระสินีนาฏฯ ยังได้ล่วงละเมิดพระราชอำนาจ สั่งการในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการลดปัญหา หรือการกระทำใดๆ ที่ไม่เหมาะสม อันมีผลกระทบต่อสถาบันและส่วนรวมของประเทศชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาให้ขึ้นเป็นเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ด้วยทรงหวังพระราชหฤทัยว่า จะลดแรงกดดัน และปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้นที่จะส่งผลกระทบต่อสถาบัน หลังจากนั้น ได้ทรงเฝ้าติดตามความประพฤติและการปฏิบัติของเจ้าคุณพระสินีนาฏฯ มาอย่างต่อเนื่องจึงได้ทรงทราบว่า เจ้าคุณพระสินีนาฏฯ มิได้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และประพฤติตนให้เหมาะสมกับตำแหน่ง อีกทั้งยังไม่พอใจในตำแหน่งที่ได้รับพระราชทาน ยังกระทำการทุกประการที่จะเทียบเท่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไม่มีความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของราชสำนัก แสดงความกระด้างกระเดื่อง ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนใช้ประโยชน์จากตำแหน่งในการดำเนินการสั่งการ แอบอ้างพระราชกระแสไปกระทำการ หรือสั่งการให้บุคคลต่างๆ ปฏิบัติตามคำสั่งของตนเองโดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบ อ้างว่าได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินการแทนพระองค์ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในฐานะตำแหน่งของตนเอง ถือได้ว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์ ส่วนตนโดยตรง ให้เกิดความนิยมชมชอบ อันนำไปสู่สิ่งที่ตนคาดหวังไว้ มิใช่เพื่อส่วนรวมโดยแท้จริงเพราะมุ่งหวังที่จะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสถาปนาตนเองให้สูงขึ้น เทียบเท่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

การกระทำของเจ้าคุณพระสินีนาฏฯ ดังกล่าวถือได้ว่าไม่ถวายพระเกียรติ ขาดความกตัญญู ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสร้างความแตกแยกในหมู่ข้าราชบริพาร ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในหมู่ประชาชน ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติและสถาบัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี พ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร ถอดฐานันดรศักดิ์ และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ มาตรา ๑๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ ประกอบมาตรา ๔ และมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชกฤษฎีกา จัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และมาตรา ๑๒ ของพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี พ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร ถอดฐานันดรศักดิ์และยศทหาร ตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

 

The post ในหลวง ร.10 โปรดเกล้าฯ ถอดฐานันดรศักดิ์ ‘เจ้าคุณพระสินีนาฏ’ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

สมพระเกียรติ ‘จักรพรรดินารุฮิโตะ’ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

$
0
0

หลังจากที่ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 แห่งญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างสมพระเกียรติ ที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นเฝ้ารอคอยและทั่วโลกเฝ้าจับตาดูก็มาถึงแล้วในวันนี้ (22 ตุลาคม 2562)

โดยในช่วงเช้า สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีถวายราชสักการะเทพีอามะเทราสุ หรือสุริยเทพี บรรพสตรีแห่งพระราชวงศ์ญี่ปุ่น รวมถึงบูรมหาจักรพรรดิ เทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ไตรปูชนียสถาน ในเขตพระราชวังหลวง กรุงโตเกียวในการนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงฉลองพระองค์โบราณ ชุดโซกุไตสีขาว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ปรัมพิธีในเวลา 9.00 น. พร้อมกับเจ้าพนักงานซึ่งอัญเชิญเครื่องไตรราชกกุธภัณฑ์ ในการถวายราชสักการะเทพเจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล 

พระบรมฉายาลักษณ์อย่างเป็นทางการของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ในฉลองพระองค์ชุดโซกุไตสีขาว และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ในฉลองพระองค์ชุดจูริฮิโตเอะ

ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ทรงประกอบพระราชพิธี โซกุอิเระ เซเดน โนกิ ซึ่งในการนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะประทับพระบัลลังก์ทาคามิคูระ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะประทับพระบัลลังก์ไมโชได ณ ท้องพระโรงมัตสึโนมะ หรือท้องพระโรงใหญ่ของพระราชวังอิมพีเรียล

จากนั้น สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ทรงมีพระบรมราชโองการประกาศการครองราชย์ ความว่า “ข้าพเจ้าขอให้คำมั่นว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในฐานะประมุขของประเทศ เพื่อความเป็นเอกภาพของประชาชน”

พระบรมฉายาลักษณ์อย่างเป็นทางการของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ในฉลองพระองค์ชุดโคโรเซนโกโฮ สีน้ำตาลทอง ซึ่งเป็นฉลองพระองค์แบบโบราณของยุคเฮอัน สำหรับพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะทรงฉลองพระองค์ชุดจูนิฮิโตเอะ ซึ่งซ้อนกัน 12 ชั้น สำหรับพระราชวงศ์ฝ่ายในและสตรีชั้นสูง รวบพระเกศาไว้ด้านหลังตามแบบสมัยเฮอัน

สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนรถยนต์พระที่นั่ง ตามหมายกำหนดการเดิมที่จะจัดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 เนื่องจากความเสียหายของเหตุภัยพิบัติพายุฮากิบิสเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พระราชพิธีต่างๆ ยังคงจัดขึ้นตามกำหนดการเดิมต่อไป โดยมีพระราชอาคันตุกะต่างชาติ ทั้งพระราชวงศ์ ผู้นำประเทศ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมถวายพระพรกว่า 2,500 คน


 

ข้อมูล : Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย, thebangkokinsight.com, bangkokbiznews.com

ภาพ : Gettyimages, Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย

The post สมพระเกียรติ ‘จักรพรรดินารุฮิโตะ’ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

๕ พระกระยาหารในพระพุทธเจ้าหลวง กับข้าวพื้นถิ่น พระเจ้าแผ่นดินทรงโปรด

$
0
0

  ๕ พระกระยาหารในพระพุทธเจ้าหลวง กับข้าวพื้นถิ่น พระเจ้าแผ่นดินทรงโปรดพระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดอาหารที่คนทั่วไปรับประทาน  ในหนังสือ ตำราอาหารสามแผ่นดิน : วันดี ณ สงขลา ได้หยิบยกข้อมูลเมื่อครั้งพระองค์เสด็จประพาสต้น  ครั้งแรกมาเล่าว่า

ขณะทรงหยุดกระบวนประทับแรมที่วัดโชติทายการาม หลัก ๖  คลองดำเนินสะดวก  พระองค์ทรงเรือเล็กพายไปประพาสทุ่งช่วงบ่าย  ทรงพบกับยายแก่คนหนึ่งกำลังเก็บหอมแดง  กระเทียม    เตรียมผึ่งนอกชานบ้าน  ยายแก่คนนั้นพอเห็นเรือก็เข้าใจว่าเป็นพวก  ขุนนางตามเสด็ตจึงได้เชื้อเชิญให้ขึ้นมากินข้าวด้วยกัน  โดยกับข้าวมื้อนั้น มีข้าวที่หุงใหม่ ๆ ใส่ชามกะลา  กินกับผักกาดและหมูน้ำพริก  ซึ่ง  พอความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่ยายแก่นั้นชวนให้มากินข้าวคือสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง  พระองค์ได้พระราชทานเงินให้หลายสิบเท่าของราคากับข้าวที่ยกมาเลี้ยง

ต่อมาในช่วงการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒  เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๐  พระองค์ทรงคิดถึงอาหารไทยอย่างมาก  ถึงขั้นนิมิตว่า  สมเด็จพระเจ้ามไหยิกาเธอ  กรมพระสุดารัตนราชประยูร   ทรงปรุงข้าวคลุกกะปิใิหเ้สวย  ครั้งนั้นเมื่อตื่นพระบรรทมจึงรับสั่งต่อพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ  ให้เตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุง  โดยพระองค์จะเป็นผู้คลุกข้าวเอง

อีกทั้งในหนังสือ พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน  พระราชหัตถเลขาฉบับที่ ๓๕ ยังมีการบันทึกเหตุการณ์เมื่อครั้งที่พระองค์ประทับ ณ เมืองฮอมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี  ได้เสด็จฯไปยังซาลซ์บูร์ก  ซึ่งเป็นค่ายพวกโรมันจนถึงเวลาเย็น  ความตอนหนึ่งในพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ระบุว่า ในช่วงเย็นที่พระองค์ทรงขึ้นรถมอเตอร์คาร์กลับ  ทรงมีรับสั่งให้เตรียมพระกระยาหาร  เพื่อพระองค์จะทรงทำกับข้าวด้วยพระองค์เอง   และมื้อนั้นก็เต็มไปด้วยความโกลาหลอลเวงเป็นอย่างมาก

“เวลาเย็นเสียมาก  จึงกลับขึ้นรถโมเตอร์คาร์ให้โปลิศนำไปในป่า เพราะได้เตรียมไว้ว่าจะไปต้มเข้าต้มบะช่อกิน  เขียนสั่งสิ่งของไว้แต่ กลางคืนด้วยรู้แน่ว่ามาโฮเต็ลคงจะกินเข้าไม่ได้  เพราะกับเข้ามัน ๆ หวาน ๆ ทุกอย่าง  คิดจะกินเข้าต้มต่างตีเสียให้อิ่มแล้วมาดินเนอแต่น้อย เลือกที่ได้เหมาะดีเต็มทีสมที่ควรจะทำกับเข้าต้ม  เข้าไปปูผ้าปูผ่อนเรียบร้อย  ลงมือเปิดของเตรียมพร้อมแล้วยังแต่น้ำ  พระยาศรีธรรมสาส์นส่งขวดขนาดครึ่งไปนต์มาให้  มันมากกว่าโซดาขวดหนึ่งนิดเดียว  ร้องไม่พอก็บอกว่ามี  ค้นก็ไม่ได้  ได้แค่น้ำแร่แลเหล้ายา อะไรยุ่งไปทั้งนั้น  เพียงจะซาวเข้าก็ไม่พอ  ต้องให้รถไปขอน้ำชาวบ้าน ได้นำมาเอาหม้อออกมาดูเล็กนิดเดียว  กินสามคนก็จะไม่พอ  ต้องให้ไปยืมหม้อชาวบ้าน  ได้หม้อดินหนาตึ้กโตกบเตา  พอน้ำมาถึงได้ซาวเข้า ตั้งต้มไปหน่อยหนึ่งนึกว่าน้ำจะน้อยจะเติมน้ำ  ชายอุรุพงษ์เหยียบโครม ลงไปในถังหกหมด  นึกขึ้นได้ถึงอ้ายขวดเล็กที่มีอยู่เห็นจะพอเติม หม่อมนเรนทร์หยิบมาเปิด  ร้องเอะอะว่ากลิ่นมันผิดปรกติ  พระยาศรีธรรมสาส์นก็ยังยืนว่าน้ำ  เถียงกันถึงชิมกลายเปนน้ำส้ม  หากว่าไม่รินลงไป  หม่อมนเรนทร์กับตาอ้นหั่นไก่จะมาผัดน้ำปลากับพริกไทย พ่อเปนผู้ผัด  ผัดไปผัดมาดำเปนหมึก  ไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไร  หน้าตากินตาย  ตกลงเปนต้องเททิ้ง  คราวนี้ใช้เบคอนทอดทำสำเร็จแล้ว คอยเข้าจนทุ่มครึ่งก็ไม่เดือด  พระอาทิตย์ก็หมดลงไปจะค่ำ  อ้ายท้องก็ร้องอึด ๆ  อยากกินเข้า  เพราะขาดทุนน้ำชาเข้าไปไม่ได้กินด้วย
ตกลงเปนจะรอคอยกว่าจะเสร็จ  เห็นจะสักสองทุ่มเศษ  กลับไปกิน โฮเต็ลดีกว่า”

ทั้งนี้นอกจากที่พระองค์ทรงพรรณนาไว้ในบทพระราชนิพนธ์แล้ว พระกระยาหารที่พระองค์โปรดเป็นอย่างมาก็ยังมีอีกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น หมี่กรอบชาววัง,ปลากุเลาทรงเครื่อง,ทอดมันกุ้งฝอย และแกงเทโพ

ปลากุเลาทรงเครื่อง
หมี่กรอบชาววัง
ทอดมันกุ้งฝอย
แกงเทโพ

 

อ่านเรื่องราวราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระกระยาหารโปรดได้ในนิตยสารแพรวฉบับพิเศษ “ตุลามหาราช” โดยหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือนายอินทร์ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

 

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

งดงามตราตรึง พระบรมสาทิสลักษณ์ 2 มหาราช ผลงานจรดพู่กันของ 10 ศิลปินระดับชาติ

วีรสตรีคู่พระบารมี สมเด็จพระบรมราชินีนาถ 2 รัชกาล

 

 

The post ๕ พระกระยาหารในพระพุทธเจ้าหลวง กับข้าวพื้นถิ่น พระเจ้าแผ่นดินทรงโปรด appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เจ้าฟ้าแห่งปวงชน ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ยังคงทรงงาน แม้ทรงพระประชวร

$
0
0

แม้ว่าเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ถึงพระอาการประชวรของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่าทรงมีพระอาการเจ็บพระนาภี (ท้อง) และมีพระปรอท (ไข้) โดยผลการตวจพบว่ามีการอักเสบติดเชื้อของกระเปาะของพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) คณะแพทย์จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อถวายการรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะ และขอพระราชทานให้ทรงงดพระราชกรณียกิจสักระยะหนึ่ง

แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีต่อปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะเหล่าบัณฑิตจากสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย และสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 22-23 ตุลาคม 2562 นี้ ทำให้พระองค์ยังคงทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามหมายกำหนดการเดิมที่วางเอาไว้ จะมีการเปลี่ยนแปลงก็เพียงแค่สถานที่ในการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเท่านั้น ซึ่งเปลี่ยนเป็นที่ห้องประชุม Auditorium ชั้น 12 อาคารภูมิสิริมัคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ทั้งนี้จากภาพที่ปรากฏ ในการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย ประจำปีการศึกษา 2561 ณ ห้องประชุม Auditorium ชั้น 12 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 จะเห็นได้ว่า พระหัตถ์ซ้ายของพระองค์ทรงมี Heparin lock อยู่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการถวายการรักษาด้วยพระโอสถหรือสารน้ำทางเส้นพระโลหิตดำ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สร้างความความปลาบปลื้มใจให้กับเหล่าบัณฑิตเป็นอย่างมาก


 

ข้อมูลและภาพ : The Thai Red Cross Society , โบราณนานมา

ข้อมูลการแพทย์ : Drama-addict

The post เจ้าฟ้าแห่งปวงชน ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ยังคงทรงงาน แม้ทรงพระประชวร appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ทรงสง่างามแบบสากล ‘ในหลวง-พระราชินี’ในวโรกาสเสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงโอเปร่า

$
0
0

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อทอดพระเนตรการแสดงดนตรีของนายโฆเซ การ์เรรัส (Jose Carreras) นักร้องโอเปร่าชื่อดังระดับโลก ซึ่งการแสดงครั้งนี้เป็นโชว์ปิดม่านอำลากรุงเทพมหานครของงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21

ทั้งนี้หลังการแสดงจบลง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.ท. ภักดี แสง-ชูโต เชิญช่อดอกไม้พระราชทานไปมอบให้แก่ผู้แทนคณะนักแสดง จำนวน 3 คน ได้แก่ นายโฆเซ การ์เรรัส นางสาวเซลีน ไบร์น นักโซปราโน และนายเดวิด กีเมเนซ วาทยกร

อีกทั้งในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายโฆเซ่ การ์เรรัส เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) ด้วย

สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรคอนเสิร์ตครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดแต่งกายแบบสากลที่สง่างาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ซึ่งทรงฉลองพระองค์ชุดราตรียาวแบบสากลให้ได้เห็นกันเป็นครั้งแรก และได้รับคำชื่นชมถึงพระสิริโฉมที่งดงามอย่างล้นหลาม โดยฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ในครั้งนี้ เป็นชุดราตรียาวสีแดง ชายยาวแบบหางปลาเล็กน้อย และโดดเด่นด้วยลวดลายอันงดงามของผ้าไหมแพรวา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมไทย อีกทั้งประดับด้วยคริสตัลสุดระยิบระยับ พร้อมทั้งทรงเครื่องประดับทับทิมที่รับกับสีของฉลองพระองค์เป็นอย่างยิ่ง 


 

ข้อมูลและภาพ : mgronline.com, matichon.co.th

The post ทรงสง่างามแบบสากล ‘ในหลวง-พระราชินี’ ในวโรกาสเสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงโอเปร่า appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

Viewing all 1295 articles
Browse latest View live